สอศ.เตรียมเสนอบอร์ดบริหาร 1 อำเภอ 1 ทุน ปรับเกณฑ์พิเศษสำหรับเด็กอาชีวะ ในการเปิดรับสมัครรอบ 2 หลังผลสอบข้อเขียนรอบแรกพบ 137 รายไม่มีเด็กอาชีวะติดโผเลย “ชัยพฤกษ์” ผุดไอเดีย 1 จังหวัด 1 ทุน ภายใต้โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน โดยให้โอกาสเด็กอาชีวะ กศน. สช.ได้เรียนต่อในและต่างประเทศ แต่มีเงื่อนไขต้องกลับมาทำงานใช้ทุนคืน
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่น 4 ปีงบประมาณ 2556-2563 ซึ่งปรากฏว่ามีผู้สอบผ่านข้อเขียนเพียง 137 คน จากผู้สมัคร 20,381 คน ในทั้งส่วนของทุนประเภทที่ 1 เรียนดี ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 200,000 บาท และทุนประเภทที่ 2 เรียนดีไม่จำกัดรายได้ครอบครัว และเร็วๆ นี้ ศธ.เตรียมการที่จะเปิดรับสมัครคัดเลือกรอบ 2 นั้น อย่างไรก็ตาม โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนรุ่นที่ 4 นี้ได้เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเข้าร่วมโครงการได้ แต่จากจำนวนผู้ผ่านการสอบข้อเขียนดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ. ได้ทำการตรวจสอบพบว่าไม่มีนักเรียน นักศึกษาในสังกัด สอศ.สอบผ่านข้อเขียนเลย
เพราะฉะนั้น ในการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ตนจะเสนอให้คณะกรรมการฯ ได้ปรับเกณฑ์ หรือจำแนกเด็กสายอาชีวศึกษาแยกออกมาเป็นกลุ่มพิเศษ เพื่อให้โอกาสเด็กอาชีวะได้รับทุนเรียนต่อระดับปริญญาตรีทั้งในและต่างประเทศ ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนตามโครงการพัฒนาโครงสร้างการคมนาคมของรัฐบาล
นายชัยพฤกษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 5 สอศ.เตรียมจะเสนอให้ ศธ.ดำเนินโครงการ 1 จังหวัด 1 ทุน รวมเป็น 77 ทุน ซึ่งจะเป็นการดำเนินการภายใต้โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนของรัฐบาล โดยนักเรียน นักศึกษาที่ได้รับทุนจะต้องเรียนดี มีฐานะยากจน มีความประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรม และสามารถคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมจากทุกจังหวัด นอกจากนี้จะต้องเรียนอยู่ในจังหวัดนั้นๆ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ซึ่งทุนดังกล่าวนี้ สอศ.เสนอเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนอาชีวะทั้งในสถานศึกษาสังกัด สอศ. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ได้รับทุนเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับทุนเมื่อสำเร็จการศึกษาจะต้องกลับมาประกอบอาชีพในประเทศไทย เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่าระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่น 4 ปีงบประมาณ 2556-2563 ซึ่งปรากฏว่ามีผู้สอบผ่านข้อเขียนเพียง 137 คน จากผู้สมัคร 20,381 คน ในทั้งส่วนของทุนประเภทที่ 1 เรียนดี ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 200,000 บาท และทุนประเภทที่ 2 เรียนดีไม่จำกัดรายได้ครอบครัว และเร็วๆ นี้ ศธ.เตรียมการที่จะเปิดรับสมัครคัดเลือกรอบ 2 นั้น อย่างไรก็ตาม โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนรุ่นที่ 4 นี้ได้เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเข้าร่วมโครงการได้ แต่จากจำนวนผู้ผ่านการสอบข้อเขียนดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ. ได้ทำการตรวจสอบพบว่าไม่มีนักเรียน นักศึกษาในสังกัด สอศ.สอบผ่านข้อเขียนเลย
เพราะฉะนั้น ในการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ตนจะเสนอให้คณะกรรมการฯ ได้ปรับเกณฑ์ หรือจำแนกเด็กสายอาชีวศึกษาแยกออกมาเป็นกลุ่มพิเศษ เพื่อให้โอกาสเด็กอาชีวะได้รับทุนเรียนต่อระดับปริญญาตรีทั้งในและต่างประเทศ ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนตามโครงการพัฒนาโครงสร้างการคมนาคมของรัฐบาล
นายชัยพฤกษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 5 สอศ.เตรียมจะเสนอให้ ศธ.ดำเนินโครงการ 1 จังหวัด 1 ทุน รวมเป็น 77 ทุน ซึ่งจะเป็นการดำเนินการภายใต้โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนของรัฐบาล โดยนักเรียน นักศึกษาที่ได้รับทุนจะต้องเรียนดี มีฐานะยากจน มีความประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรม และสามารถคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมจากทุกจังหวัด นอกจากนี้จะต้องเรียนอยู่ในจังหวัดนั้นๆ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ซึ่งทุนดังกล่าวนี้ สอศ.เสนอเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนอาชีวะทั้งในสถานศึกษาสังกัด สอศ. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ได้รับทุนเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับทุนเมื่อสำเร็จการศึกษาจะต้องกลับมาประกอบอาชีพในประเทศไทย เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่าระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา
