ฉะเชิงเทรา - 3 หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัย และพิทักษ์พื้นผิวการจราจรเมืองแปดริ้ว ยกเครื่องชั่งลอยลุยปราบรถบรรทุกน้ำหนักเกินที่แอบหลบเลี่ยงเครื่องสอบน้ำหนักการบรรทุกบนทางหลวงสายหลัก หลังทนเสียงร้องระงมจากชาวบ้านในพื้นที่ไม่ไหว เผยมีรถแอบหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากด่านชั่งหลักเป็นจำนวนมาก หวั่นกระทบโครงสร้างทำสะพานทรุด หลังซ่อมแซมพื้นผิวเส้นทางถี่ยิบแต่ยังทรุดพังตามเดิม จนชาวบ้านใช้สัญจรอย่างสะดวกไม่ได้
วันนี้ (23 พ.ค.) นายสุวัฒน์ ตาปนานนท์ รอง ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการแขวงการทาง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และดูแลบำรุงรักษาเส้นทางการจราจร ประกอบด้วย แขวงการทางจังหวัดฉะเชิงเทรา ขนส่ง จ.ฉะเชิงเทรา และสำนักงานทางหลวงชนบทฉะเชิงเทรา ได้จับมือร่วมกันออกตรวจสอบชั่งคุมน้ำหนักรถบรรทุกในเส้นทางการขนส่งสายรอง บนทางหลวงชนบทหมายเลข 3005 ต่อเนื่องทางหลวง 3122 และ 3304 หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาเป็นจำนวนมากว่า มีรถบรรทุกหนักแอบเข้ามาใช้เส้นทางจนทำให้ถนนเสียหาย ชาวบ้านเดินทางลำบาก
ซึ่งรถบรรทุกที่แอบหลบเลี่ยงเข้ามาใช้เส้นทางสายนี้ ส่วนใหญ่จะบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จนทำให้พื้นผิวการจราจรได้รับความเสียหายอย่างหนักมาอย่างต่อเนื่อง จนไม่สามารถที่จะซ่อมแซมให้กลับคืนมาสู่สภาพเดิมได้ทันต่อการชำรุดเสียหาย นอกจากนี้ ยังอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง บริเวณ อ.บ้านโพธิ์ จนทำให้สะพานทรุดเสียหายไปด้วย
โดยเฉพาะเส้นทางช่วงตอน ดอนสีนนท์-แหลมประดู่ (3304) ที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสาย 315 ฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม และถนนสาย 331 กบินทร์บุรี-สัตหีบ นั้นพังเสียหายอย่างหนัก ต่อเนื่องไปจดสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (3122+3005) ซึ่งเป็นเส้นทางลัดในการหลบเลี่ยงจากถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ที่มีด่านชั่งน้ำหนักถาวรตั้งอยู่ จึงทำให้มีรถบรรทุกที่มีการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเหล่านี้แอบเข้ามาใช้เส้นทางกันอย่างหนาแน่น และเกิดปัญหาพื้นผิวการจราจรชำรุดเสียหายอย่างเช่นในปัจจุบัน
นายสุวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการประชุมหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานผู้รับผิดชอบ จึงมีความเห็นตรงกันทั้ง 3 หน่วยงานว่า จะร่วมมือกันออกมาตั้งด่านชั่งน้ำหนักลอย ตามเส้นทางหลบเลี่ยงสายต่างๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ เพื่อป้องกันผู้ฝ่าฝืนกฎหมายไม่ให้กระทำผิดบรรทุกน้ำหนักเกินจนถนนพังเสียหายได้อีก
แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ออกมาตั้งจุดสอบชั่งน้ำหนักลอยบนเส้นทาง บรรดารถบรรทุกที่กระทำผิดกฎหมายเหล่านี้ ต่างได้พากันหยุดวิ่งเข้ามาใช้เส้นทาง เพื่อหลบเลี่ยงการสอบน้ำหนักจากเจ้าหน้าที่อีก ซึ่งถือเป็นปัญหาที่สำคัญในการปฏิบัติอย่างหนึ่งในการปราบปรามการกระทำผิดเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อมีผู้มาพบเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาตั้งจุดตรวจในเส้นทาง กลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ก็จะแจ้งเตือนกันต่อไปเป็นทอดๆ เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายให้แก่ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเหล่านี้ทราบ และไม่เข้ามาใช้เส้นทางในขณะที่เจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ
จึงทำให้การจับกุมเพื่อนำไปดำเนินการตามกฎหมายนั้นทำได้ยากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การออกมาตั้งจุดชั่งน้ำหนักลอยในลักษณะนี้นั้น ก็ถือว่าเป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้ที่ชอบกระทำผิดทำการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือบรรทุกน้ำหนักเกินได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งต่อไปจะมีการหมุนเวียนย้ายจุดการตรวจสอบน้ำหนักลอยไปเรื่อยๆ และจะทำอย่างต่อเนื่องในทุกๆ เดือน