xs
xsm
sm
md
lg

“ยอดศึก” เปิดดอยไตแลงฉลองวันกองทัพ ย้ำปี 57 เจรจาพม่าเดินหน้าตั้ง “สหภาพ” (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จ้ายอดศึก พร้อมแม่ทัพ-นายกอง และชาวไทใหญ่ เปิดดอยไตแลงฉลองวันกองทัพปีที่ 66 อย่างคึกคัก พร้อมประกาศก้องขอสิทธิ “คนไต” คืนจากพม่า วางโรดแมปปี 57 เดินหน้าเจรจาทางการเมืองกับย่างกุ้งแบบ “พบกันครึ่งทาง” ตั้ง “สหภาพ” ให้ได้

รายงานข่าวแจ้งว่า ในงานฉลองวันกองทัพรัฐฉาน ปีที่ 66 เมื่อ 21 พ.ค.อ56 ที่ผ่านมา เจ้ายอดศึก ประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน ยังคงทำหน้าที่นำแม่ทัพนายกอง และชาวไต หรือไทใหญ่ รวมกว่า 3,000 คน เข้าร่วมงาน ณ ฐานที่มั่นทางทหารบนยอดดอยไตแลง ตรงข้าม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอนของไทย โดยมีการกล่าวปฏิญาณตนที่จะร่วมเดินหน้ากอบกู้อธิปไตยเหนือดินแดนรัฐฉาน จากประเทศพม่า พร้อมกับวางพวงมาลาแด่บรรพบุรุษ และทหารหาญที่ต้องสูญเสียชีวิตไปกับการต่อสู้เพื่อกอบกู้อธิปไตยในรัฐฉาน ที่ดำเนินมานานกว่า 50 ปี

ขณะที่บรรดาผู้นำทางจิตวิญญาณ และผู้นำเหล่าทัพ รวมทั้งฝ่ายการเมือง ที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์คราวนี้มุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการกดขี่ข่มเหงจากทหารพม่า โดยไม่มีการรักษากฎกติกาใดๆ พร้อมกับประกาศย้ำทางออกทางเดียว คือ การเร่งเดินหน้ากอบกู้อธิปไตยจากพม่า และพร้อมเดินหน้าต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธถ้ามีการรุกราน

เจ้ายอดศึก ในฐานะประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า มาถึงวันนี้ผมคิดว่าเราไม่ต้องต่อรองอีกแล้วกับพม่า เพราะว่าเราขอเอาสิทธิของเราคืน รัฐฉานเรามีประเทศของเรามาตั้งแต่สมัยไหน มีประวัติศาสตร์มายาวนาน เรามีบ้านของตัวเองอยู่แล้ว เราขอคืนบ้านของเราเอง

เจ้ายอดศึกบอกอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรายังไม่ได้เตรียมตัวว่าเราจะทำอย่างไร รอให้สัญญาปางหลวงมีผลก่อน ขอให้เรามีสิทธิปกครองตนเองของใครของมัน ตั้งขึ้นมาเป็นรัฐบาลของตนเอง ให้เป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย แบ่งแยกอำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ อำนาจนิติบัญญัติ ให้ชัดเจน เพราะตอนนี้พม่าดำเนินการอยู่ไม่ชัดเจนเลย ซึ่งการปกครองต้องเป็นสหภาพ แต่การบริหารต้องเป็นเสรีภาพของแต่ละรัฐ

“เราไม่ได้ต้องการแยกการปกครองให้เป็นประเทศของตนเอง แต่แยกการปกครอง จัดการของตนเอง ให้มีนายกรัฐมนตรี ประชาชนเลือกนายกฯ ของตนเอง ไม่ใช้แต่งตั้งเช่นในปัจจุบัน”

เจ้ายอดศึกกล่าวต่อว่า แต่ถ้าพม่ายังคงละเมิดกติกาในทุกระดับเพื่อครองอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่ดำเนินการตามข้อตกลงทั้งสัญญาปางหลวง และข้อตกลงหยุดยิง กองทัพกอบกู้รัฐฉานจะยังคงเดินหน้าใช้กำลังอาวุธต่อไป ควบคู่กับการเจรจา

เจ้ายอกศึกมองว่า สถานการณ์โลกขณะนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ถ้าแยกเอกราชออกมาเป็นประเทศ ถ้าอย่างนั้นกะฉิ่นก็ต้องการอยากได้เอกราชของตนเอง มอญ กะเหรี่ยง กะยา ก็ต้องการได้เอกราช พม่าจะยอมได้อย่างไร ถ้าไม่ยอมการสู้รบก็ไม่หยุด

“เราพยายามเจรจากับพม่า ความต้องการคือพบกันครึ่งทาง ไม่ใช่พม่าต้องการได้ทั้งหมดก็ไม่ได้ ไตอยากได้อย่างเดียวก็ไม่ได้ ดังนั้นการปรองดอง และสหภาพที่ต้องการให้เกิดขึ้น เขาต้องเข้ามาหารือกัน ต่างคนต้องต่างยอมกัน ยอมที่ดีที่สุดคือ การเป็นสหภาพ”

ส่วนพื้นฐานการเป็นสหภาพนั้น ก็ต้องมาคุยกัน ขณะนี้มี 7 รัฐ 7 พื้นที่ บางคนบอกว่าต้องเป็น 8 รัฐ พม่าเป็นเพียง 1 ใน 8 รัฐ ซึ่งพม่าจะยอมไหม พม่าไม่ยอม อองซานซูจีบอกว่า ต้องเป็น 10 รัฐ 7 พื้นที่

“ตอนนี้กำลังเจรจากันอยู่ ผมคิดว่ากี่รัฐก็ไม่เป็นไร แต่เอามารวมกันตั้งเป็นสหภาพ เพราะว่ารัฐไทใหญ่ของเราไม่ได้เสียหาย เพราะเป็นรัฐของเรา แต่เสียหายตรงที่เสียงในสภาของเราไม่เพียงพอ ผมเชื่อว่าพม่าแย่งกันกินมาตลอด ถ้าเป็น 7 รัฐ เขาจะสามัคคีกันหรือไม่”

เจ้ายอกศึก ยังบอกอีกว่า ขณะนี้กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ กับพม่า กำลังดำเนินการการเจรจาทางการเมือง ปี พ.ศ.2557 เราจะต้องเจรจาทางการเมืองให้ได้ ไม่ว่าชาติพันธุ์ไหนก็มีการประชุมกันอยู่ทุกเดือน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้ไปพบปะหารือเจรจากับรัฐบาลของพม่าเจรจาทางการเมือง เพื่อบอกว่าชาติพันธุ์รวมตัวกันแล้ว พม่าเห็นด้วยหรือไม่ และได้ยื่นข้อเสนอให้กับพม่าเพื่อไปศึกษาแล้ว ซึ่งถือเป็นแนวทางของชาติพันธุ์ที่อยู่ในพม่า ขณะนี้กำลังรอการตอบกลับมาของพม่า

“ชาติพันธุ์แน่นอน เราเหมือนกัน ถ้าไม่พูดถึงอองซานซูจี ซึ่งเป็นคนที่เปิดประชาธิปไตยของพม่า เชื่อว่าอองซานซูจีต้องเห็นด้วยกับการปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กองทัพพม่าเป็นรัฐบาลทหารพม่าอยู่แล้ว เชื่อว่าเขาเห็นด้วยบางส่วน บางส่วนก็ไม่เห็นด้วย บางส่วนไม่เห็นด้วยเพราะเป็นห่วงอำนาจจะลดลง หลังจากนี้จะอยู่ที่ไหน”

คลิกเพื่อชมคลิป:





กำลังโหลดความคิดเห็น