ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี โชว์ผลงานรวบ 3 ผู้ต้องหา ร่วมกันจับอดีตภรรยาเจ้านายเก่าไปเรียกค่าไถ่ เป็นเงิน 1.2 ล้านบาท ซ้ำยังปล้นทรัพย์อีกหลายรายการ รู้เจ้าหน้านายเก่าขายที่ดินได้ 60 ล้าน ตั้งใจไปขอเงินแต่กลัวไม่ได้จึงจับเมียไปเรียกค่าไถ่ ด้าน ผบก.ขู่ 2 โจรที่ยังหลบหนีไม่มอบตัวเจอวิสามัญฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 พ.ค.) พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก.สภ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 3 ผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุร่วมกันปล้นทรัพย์ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ แหวนเพชร และนาฬิกา มูลค่ากว่า 2 แสนบาท จากนางบ๊วยเอง นาคเจริญ เจ้าของไร่สัปปะรด อดีตภรรยาเจ้านายเก่า ที่บ้านไม่มีเลขที่ ม.9 ต.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี และยังร่วมกันประทุษร้ายก่อนอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่เป็นเงิน จำนวน 1.2 ล้านบาท
โดยมีผู้ต้องหาประกอบด้วย นายวันชัย ก้อนทอง อายุ 40 ปี หัวหน้าแก๊ง อดีตลูกน้องเก่าของสามีเก่า นายวิชัย เดชฤทธิ์กล้า อายุ 55 ปี และ น.ส.น้อย เทียนทองดี อายุ 46 ปี พร้อมของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า ทะเบียน ผบ 1714 ชลบุรี สมุดบัญชีเงินฝากและบัตร ATM 1 ใบ เงินสด 5,000 บาท พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันเรียกค่าไถ่บุคคลอายุเกินกว่า 50 ปี ไปขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หน่วงเหนี่ยวกักขังและปล้นทรัพย์ และยังส่งเจ้าหน้าที่ออกไล่ล่า นายน้อย ไม่ทราบนามสกุล และนายชำนาญ ไม่ทราบนามสกุล อีก 2 ผู้ต้องหาซึ่งร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี
เบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่า เนื่องจากภรรยาเจ้านายเก่า เพิ่งจะขายที่ดินได้เป็นเงิน จำนวน 60 ล้าน พวกตนจึงตั้งใจจะไปขอเงินใช้ แต่เกรงว่าจะไม่ได้จึงวางแผนอุ้มตัวเพื่อเรียกค่าไถ่
ด้าน พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาตร์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นผลมาจากเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา นายวันชัย ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และเป็นอดีตคนขับรถบรรทุกสัปปะรด ของสามีนางบ๊วยเอง ได้ข้อมูลว่า อดีตเจ้านายเพิ่งจะขายที่ดินได้เป็นเงิน จำนวน 60 ล้านบาท จึงเข้าใจว่าน่าจะแบ่งให้ นางบ๊วยเอง ซึ่งเป็นภรรยาบ้าง จึงตั้งใจจะไปขอเงินใช้แต่เกรงว่าจะไม่ได้ จึงชักชวน นายวิชัย นายน้อย และนายชำนาญ ที่ยังหลบหนี ขับรถกระบะไปปล้นทรัพย์ และอุ้มตัว นางบ๊วยเอง ที่ไร่มันสำประหลัง ใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
ก่อนจะโทรศัพท์ไปเรียกค่าไถ่จาก น.ส.ธนะพร นาคเจริญ บุตรสาว เพื่อให้นำเงินสดจำนวนดังกล่าวมาแลกตัว พร้อมขู่ฆ่าผู้เป็นแม่หากไม่ยอมจ่ายเงิน น.ส.ธนะพร จึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมปฏิเสธทที่จะจ่ายเงิน จำนวน 1.2 ล้าน และได้ต่อรองเหลือเพียง 50,000 บาท นายวันชัย จึงยินยอม และให้โอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชี น.ส.น้อย ก่อนจะยอมปล่อยตัวนางบ๊วยเอง และได้ส่งขึ้นรถแท็กซี่จาก กทม.มาที่ อ.เกาะจันทร์
ขณะที่นางบ๊วยเอง ที่เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ยังคงอยูในอาการหวาดผวา โดยบรรดาญาติๆ ได้นำกระเช้าดอกไม้มามอบขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยกันจับกุมคนร้าย และไม่อนุญาตให้ประกันตัว
โดย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้กล่าวว่า หากผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ยังคงหลบหนีไม่เข้ามอบตัว สุดท้ายก็อาจถูกวิสามัญอย่างแน่นอน