ศรีสะเกษ - เจ้าของ ร.ร.อุทุมพรวิทยา โต้กลับย้ำ “น้องพ็อตเตอร์” ไม่ใช่นักเรียนในสังกัดของโรงเรียน อ้างเดินทางมาโรงเรียนตั้งแต่ปีที่แล้ว แค่มากับครูที่เป็นญาติกัน และเห็นว่าฐานะยากจน ทาง ร.ร.จึงให้นำมาเลี้ยงดู และให้การดูแลเป็นอย่างดี พร้อมให้ชุด นร.สวมใส่ ชี้แม่เด็กพยายามสร้างความเข้าใจผิด กล่าวหาทำให้โรงเรียนได้รับความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่ ด.ช.สุริยการ ทาจันทร์หรือ “น้องพ็อตเตอร์” อายุ 3 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนอุทุมพรวิทยา อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ถูกขังลืมไว้ในรถรับ-ส่งนักเรียน นานกว่า 7 ชั่วโมงเสียชีวิต ขณะนี้ต้องบำเพ็ญกุศลศพอยู่ที่บ้าน ขณะที่เจ้าของโรงเรียนอุทุมพรวิทยา ออกมาเปิดเผยว่า น้องพ็อตเตอร์ไม่ได้เป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนอุทุมพรวิทยา เนื่องจากยังไม่ได้สมัครเข้าเรียน และไม่มีชื่อเป็นนักเรียนของโรงเรียนตามระบบ ส่วน น.ส.ธัญยธรณ์ บุญมา แม่น้องพ็อตเตอร์ ออกมาตอบโต้ว่า น้องพ็อตเตอร์ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนอุทุมพรวิทยาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนอุทุมพรวิทยา อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เพื่อพบกับ นายบุญมา นวลสาย ผู้ได้รับใบอนุญาตโรงเรียนอุทุมพรวิทยา เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว นายบุญมา เปิดเผยว่า สำหรับ ด.ช.สุริยการ ทาจันทร์ หรือน้องพ็อตเตอร์ ที่ทางผู้ปกครองออกมาเปิดเผยว่าได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ ตั้งแต่ปี 2555 หรือประมาณ 1 ปีมาแล้วนั้น ข้อเท็จจริงคือ เมื่อปีที่แล้ว น้องพ็อตเตอร์ มีอายุเพียง 2 ขวบเศษเท่านั้น
ส่วนสาเหตุที่น้องพ็อตเตอร์ได้เดินทางมาโรงเรียนกับครูทุกวันนั้น เนื่องจากครูที่สอนอยู่โรงเรียนอุทุมพรวิทยานั้น เป็นญาติกับทางครอบครัวของน้องพ็อตเตอร์ ทางโรงเรียนเลยอนุญาตให้พาเด็กมาดูแลที่โรงเรียนได้โดยไม่ได้ทอดทิ้ง แต่ทางโรงเรียนไม่ได้เอาชื่อของเด็กคนนี้ไปเบิกเงินอุดหนุนจากทางรัฐบาลแต่อย่างใด เนื่องจากเด็กอายุยังไม่ถึง 3 ขวบ โดยในแต่ละวันที่น้องพ็อตเตอร์เดินทางมาโรงเรียน ก็จะได้รับการดูแลจากทางโรงเรียนเป็นอย่างดี ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว น้องพ็อตเตอร์ ก็ไม่ได้เดินทางมาที่โรงเรียนทุกวัน แต่มาเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
นายบุญมา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่แม่ของน้องพ็อตเตอร์ ได้ระบุว่า มีการเซ็นชื่อเพื่อรับชุดนักเรียนกับทางโรงเรียนนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะมีแต่ทางโรงเรียนที่นำชุดนักเรียนไปให้ เนื่องจากครูของโรงเรียนอุทุมพรวิทยา เป็นญาติกับครอบครัวของน้องพ็อตเตอร์ และมีฐานะค่อนข้างยากจน ทางโรงเรียนจึงให้ชุดนักเรียนเพื่อนำไปให้น้องพ็อตเตอร์สวมใส่
“แต่ทั้งนี้ ในวันที่เกิดเหตุ (14 พ.ค.) ทางครอบครัวของน้องพ็อตเตอร์ก็กำลังจะเดินทางมาสมัครเรียน โดยได้นำเอกสารการสมัครเรียนบรรจุใส่กระเป๋านักเรียนของน้องพ็อตเตอร์มาเป็นที่เรียบร้อย แต่ได้เกิดเหตุสลดใจขึ้นเสียก่อน จึงทำให้ไม่สามารถทำการสมัครเรียนได้” นายบุญมากล่าว
นายบุญมา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์สลดใจนี้ขึ้น ครอบครัวของน้องพ็อตเตอร์ ก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างดีว่า สถานภาพของน้องพ็อตเตอร์เป็นอย่างไร แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็พยายามสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นว่า น้องพ็อตเตอร์ เป็นนักเรียนของโรงเรียนอุทุมพรวิทยา และพูดในทำนองที่สร้างความเสียหายให้แก่ทางโรงเรียน แต่โดยระเบียบของโรงเรียนนั้น ต้องรับเด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป เข้าเรียนเท่านั้น แต่เนื่องจากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพราะความเห็นใจว่าเป็นญาติกับครูในโรงเรียนจึงให้นำมาเลี้ยงดูที่โรงเรียนเพื่อให้พ่อแม่ได้ทำงานอย่างสบาย
ทั้งนี้ แม้ว่าน้องพ็อตเตอร์ จะไม่ใช่เด็กในสังกัดของโรงเรียนอุทุมพรวิทยา แต่ทางโรงเรียนก็ให้ความช่วยเหลือ และเยียวยาอย่างเต็มที่โดยไม่ได้ปัดความรับผิดชอบแต่อย่างใด และพร้อมที่จะรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ รวมทั้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจัดงานสวดพระอภิธรรมศพ
“แต่ผมขอปฏิเสธว่า น้องพ็อตเตอร์ ยังไม่ได้เข้าเป็นนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ของทางโรงเรียนอุทุมพรวิทยาแต่อย่างใด เพราะยังไม่มีชื่อในทะเบียนนักเรียนที่จะสามารถเบิกเงินอุดหนุนตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้” นายบุญมากล่าวย้ำในตอนท้าย
คลิกเพื่อชมคลิป: