ศรีสะเกษ - แม่ “น้องพ็อตเตอร์” โต้เจ้าของโรงเรียนพูดปัดความรับผิดชอบ ยันน้องพ็อตเตอร์เข้าเรียน ร.ร.อุทุมพรวิทยามาตั้งแต่ปีที่แล้ว พร้อมร้องขอความเป็นธรรมจาก รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ครูคนขับรถคันเกิดเหตุทำ “น้องพ็อตเตอร์” ตาย ย่องเงียบเข้ามอบตัว ตร.สภ.อุทุมพรพิสัย เผยยอมรับผิดชอบทุกอย่างพร้อมชดใช้ค่าเสียหายเต็มที่ ระบุเสียใจมาก ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ ด.ช.สุริยการ ภาจันทร์ หรือ “น้องพ็อตเตอร์” อายุ 3 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนอุทุมพรวิทยา อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้ถูกทิ้งลืมไว้ในรถรับ-ส่งนักเรียนนานกว่า 7 ชั่วโมง ทำให้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าขณะนี้พ่อแม่ญาติพี่น้องนำศพจากโรงพยาบาลศรีสะเกษมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้าน ทางด้านเจ้าของโรงเรียนระบุว่าน้องพ็อตเตอร์ยังไม่ได้เป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนอุทุมพรวิทยา เพราะยังไม่ได้สมัครเข้าเรียน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (16 พ.ค.) ที่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 12 บ้านหนองใหญ่ ต.หนองห้าง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพของน้องพ็อตเตอร์ วันนี้ได้มีการนำร่างน้องพ็อตเตอร์บรรจุลงในโลงศพท่ามกลางบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่และญาติพี่น้องที่พากันมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
น.ส.ธัญยธรณ์ บุญมา อายุ 27 ปี แม่ของน้องพ็อตเตอร์กล่าวว่า กรณีที่เจ้าของโรงเรียนอุทุมพรวิทยาระบุว่าน้องพ็อตเตอร์ยังไม่ได้เป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนอุทุมพรวิทยานั้น การที่พูดออกมาเช่นนี้เป็นการปัดความรับผิดชอบ เนื่องจากน้องพ็อตเตอร์ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนอุทุมพรวิทยามาตั้งแต่ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2555) ในระดับชั้นเตรียมอนุบาล 1 อีกทั้งก่อนที่จะเข้ามาเรียนในระดับชั้นอนุบาล 1 ตนได้ไปเซ็นชื่อรับชุดเด็กนักเรียนที่โรงเรียนอุทุมพรวิทยา ซึ่งก็ปรากฏชื่อของน้องพ็อตเตอร์ที่ได้รับชุดนักเรียนอนุบาลดังกล่าวด้วย เพราะทางโรงเรียนต้องให้ผู้ปกครองไปเซ็นชื่อรับชุดนักเรียนด้วยตัวเอง หากไม่มีลายเซ็นของผู้ปกครองทางโรงเรียนจะไม่จ่ายชุดนักเรียนให้
ฉะนั้น ทางโรงเรียนจะมาบอกว่าน้องพ็อตเตอร์ไม่มีชื่อในสังกัดของโรงเรียนอุทุมพรวิทยานั้นจะเป็นไปได้อย่างไร อีกทั้งในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาครูประจำชั้นก็ยังได้ส่งการบ้านมาให้น้องพ็อตเตอร์ทำอยู่ที่บ้านด้วย
น.ส.ธัญยธรณ์กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนอุทุมพรวิทยาแจ้งมาว่าให้นำเอาเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของแม่ สูติบัตรของลูก และใบทะเบียนบ้านไปให้โรงเรียนซึ่งตนได้นำไปส่งให้โรงเรียนในวันที่ 10 พ.ค. และทางโรงเรียนแจ้งอีกว่ายังขาดสำเนาทะเบียนบ้าน ในวันที่ 14 พ.ค.ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ตนจึงได้ฝากสำเนาทะเบียนบ้านไปกับน้องพ็อตเตอร์เพื่อไปให้ครูประจำชั้นด้วย จึงไม่ใช่เอกสารที่ยังไม่ได้สมัครเข้าโรงเรียนของน้องพ็อตเตอร์ตามที่เจ้าของโรงเรียนกล่าวอ้างแต่อย่างใด
กรณีที่ว่าน้องพ็อตเตอร์อายุยังไม่ถึงเกณฑ์เข้าเรียนหนังสือนั้น ครูของโรงเรียนอุทุมพรวิทยาที่มาตระเวนหาเด็กนักเรียนไปเข้าโรงเรียนได้บอกว่า แม้น้องพ็อตเตอร์จะอายุเพียง 2 ขวบ 6 เดือนก็สามารถเข้าเรียนได้ และได้เข้าเรียนมา 1 ปีเศษแล้ว ซึ่งครูคนที่แจ้งว่าอายุไม่ถึงเกณฑ์ไม่เป็นไรนั้นตนจำหน้าครูที่ทางโรงเรียนส่งมาตระเวนหาเด็กนักเรียนที่บ้านได้แต่จำชื่อไม่ได้ ซึ่งทางโรงเรียนจะต้องทราบดีว่าครูที่มาหาเด็กนักเรียนไปเรียนหนังสือเป็นใคร ตนจึงขอความเป็นธรรมและขอฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้เข้ามาดูแลให้ความเป็นธรรมกับน้องพ็อตเตอร์และตนในเรื่องนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 09.15 น.ที่ สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ น.ส.อัมพิกา เพชรนาม อายุ 32 ปี ครูโรงเรียนอุทุมพรวิทยา คนขับรถยนต์คันเกิดเหตุทำให้น้องพ็อตเตอร์เสียชีวิตได้เข้าพบ พ.ต.ท.ทินกร เดชาเลิศ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.อุทุมพิสัย เจ้าของคดี เพื่อเข้ามอบตัวและขอประกันตัวออกไป
น.ส.อัมพิกากล่าวว่า ตนยอมรับผิดทุกอย่างและจะขอชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ครอบครัวของน้องพ็อตเตอร์ โดยรถยนต์ของตนคันที่เกิดเหตุมีประกันภัยชั้น 1 ของบริษัท เอราวัณ ซึ่งในวันนี้บริษัทจะเข้ามารับผิดชอบค่าเสียหายให้ ส่วนตนเองก็มีลูกยังเล็กเหมือนกันและไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจึงขอรับผิดชอบทุกอย่าง รวมทั้งจะชดใช้ค่าเสียหายให้แม่ของน้องพ็อตเตอร์ด้วย เพราะรู้ตัวว่าได้ทำผิดไปแล้วและเสียใจมาก พร้อมได้ขอรับผิดชอบมาตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว ซึ่งก็ได้ให้การช่วยเหลือครอบครัวของน้องพ็อตเตอร์มาโดยตลอด และขอเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพน้องพ็อตเตอร์ทุกวัน
ทางด้านนางประนอม เพชรนาม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 2 บ้านหนองปรีดี ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ แม่ของ น.ส.อัมพิกา ครูคนขับรถคันเกิดเหตุ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนพร้อมด้วยญาติพี่น้องได้มาอยู่ดูแลกับครอบครัวของน้องพ็อตเตอร์ตลอดเวลา ไม่เคยห่างเลย เพียงแต่ว่านักข่าวไม่ทราบว่าพวกตนเป็นใครและไม่เคยได้ให้ข่าวออกไป เมื่อคืนนี้ก็รวบรวมเงินมาได้ 20,000 บาทนำมามอบช่วยเหลือครอบครัวน้องพ็อตเตอร์ รวมทั้งพวกตนได้ช่วยเหลืออยู่ในงานศพตลอดตั้งแต่ช่วยกางเต็นท์ หุงข้าว ทำกับข้าวไว้เลี้ยงแขกที่มาร่วมงานศพน้องพ็อตเตอร์
“ส่วน น.ส.อัมพิกานั้น ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ช็อกไปเลย ทำอะไรไม่ถูก พูดอะไรไม่รู้เรื่อง และเมื่อเห็นหน้าลูกน้อยของตัวเองก็ร้องไห้ตลอดเวลา เพราะนึกสงสารน้องพ็อตเตอร์ที่ต้องมาเสียชีวิตกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้” นางประนอมกล่าว
คลิกเพื่อชมคลิป: