ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ปลอดประสพ” เผยเล่นละครงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำการประชุมน้ำโลกที่เวียงกุมกามเพราะต้องการเสนอประวัติศาสตร์เมืองที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ยันบทละครตามประวัติศาสตร์ไม่มีบิดเบือน สงสัยจะมาต่อต้านตนทำไม ชี้คนค้าน “สันดานหยาบช้า-ขี้โกหก” ส่วนเรื่องเอ็นจีโอจะตั้งเวทีคู่ขนานทำได้ถือเป็นสิทธิ แต่สงสัยคนเก่งๆ มาประชุมกันจากทั่วโลกแต่เชิญแล้วคนเหล่านี้กลับไม่สนใจฟัง
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กรณีที่นายปลอดประสพจะแสดงเป็นพญามังรายในการเลี้ยงต้อนรับผู้นำระดับประเทศ การประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 ว่า ไม่ทราบว่าทำไมจึงมีการต่อต้านละครเรื่องดังกล่าว เคยแสดงถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนในครั้งนี้การนำมาเล่นใหม่ก็ใช้บทเดิมซึ่งมีที่มาตามประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น ขณะที่การเลือกเวียงกุมกามเป็นสถานที่แสดงนั้นเพราะพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นของจังหวัดเชียงใหม่ และยังเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับเรื่องน้ำจากการที่น้ำท่วมเมืองโดยไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งนี้ ตนถือเป็นเพียงนักแสดงคนหนึ่งในจำนวนคนนับพันที่มาแสดง อีกทั้งงานนี้ก็มีปลัดกระทรวงร่วมแสดงด้วย จึงไม่เข้าใจว่าจะต่อต้านตนด้วยเหตุผลอะไร ส่วนการที่มีเอ็นจีโอเป็นห่วงการแสดงดังกล่าวอาจบิดเบือนข้อมูลนั้น ยืนยันว่าการแสดงเป็นไปตามบทประพันธ์ ตามประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรไม่มีการบิดเบือนใดๆ ทั้งสิ้น
“คนที่พูดเรื่องนี้เป็นคนที่น่าเกลียดที่สุด สันดานหยาบช้า เขาไม่ได้นิสัยโกหกอย่างพวกคุณถึงได้มองคนอื่นเป็นแบบนั้นไปหมด กรุณาอย่าถามผมเลย ผมรู้สึกรังเกียจที่จะรับฟังและตอบ” นายปลอดประสพกล่าว
นายปลอดประสพกล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มเอ็นจีโอจะจัดตั้งเวทีคู่ขนานกับการประชุมครั้งนี้นั้นถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม น่าแปลกที่การจัดงานครั้งนี้ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ความรู้มาร่วมประชุมกัน แต่คนเหล่านี้กลับไม่มาร่วมด้วย ทั้งๆ ที่ผู้ที่เดินทางมาประชุมในครั้งนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญแท้ๆ และไม่รังเกียจที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ แต่คนเหล่านี้กลับไม่สนใจทั้งๆ ที่ได้มีการเชิญเข้าร่วมงานแล้ว ทั้งนี้ ตนเห็นคนไทยและคนเชียงใหม่ต้องคิดให้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น คนเหล่านี้เป็นใคร ตอนน้ำท่วมหรือตอนแล้งคนเหล่านี้อยู่ที่ไหน ไม่เคยเห็นช่วยใคร แต่พอมีคนคิดทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง เพื่อโลก กลับจะมาคัดค้าน สังคมและสื่อทำไมไม่ประณามคนเหล่านี้บ้าง
สำหรับในส่วนของการจัดงานที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ (14 พ.ค.) นั้น นายปลอดประสพกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ต้องย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยมีการหารือกันเรื่องผลกระทบจากจากภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศหมู่เกาะที่อาจจะจมน้ำในอนาคต แต่ต่อมาเมื่อเกิดเหตุอุทกภัยทั้งที่ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ จึงมีความเห็นตรงกันว่าควรต้องพิจารณาเรื่องภัยธรรมชาติด้วย ดังนั้น การประชุมในครั้งนี้จึงนำทั้ง 2 เรื่องมาผสมกัน รวมทั้งยังคิดต่อไปว่าการพูดคุยกันในระดับนักวิชาการนั้นยังไม่เกิดประโยชน์เพียงพอ จะต้องมีการให้สัตยาบันจากระดับผู้นำประเทศด้วยจึงมีการเชิญผู้นำประเทศเข้าร่วม ขณะเดียวกัน การจัดงานครั้งนี้ซึ่งมีตั้งแต่พระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และบุคคลในระดับรัฐมนตรีจาก 25-26 ประเทศ รวมถึงนักวิชาการระดับสูงจาก 25 ประเทศเข้าร่วมงาน รวมจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 พันคนนั้น จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานและไม่เคยต้อนรับผู้นำจำนวนมากขนาดนี้มาก่อนจะได้รับประโยชนทั้งในแง่ของชื่อเสียง และการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน