ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -“ประเสริฐ” รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ติดตามปัญหาภัยแล้งโคราช เผยประกาศประสบภัยพิบัติแล้ง 29 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 2,379 หมู่บ้าน 114,680 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรเสียหาย 926,233 ไร่ ของบฯ แก้ 1 พันล้าน ขณะน้ำเขื่อนใหญ่ลดฮวบเหลือแค่ 28% และพบแหล่งน้ำดิบผลิตประปาหลายแห่งแห้งขอด จี้ทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือ
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ติดตามนโยบายเร่งด่วนการแก้ปัญหาภัยแล้งของจังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ และนำหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมรายงานสถานการณ์ภัยแล้งให้ทราบ
นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯ นครราชสีมา รายงานว่า ล่าสุด จ.นครราชสีมาได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยแล้งแล้วจำนวน 29 อำเภอ 24 ตำบล 2,379 หมู่บ้าน ราษฎรประสบภัย 114,680 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 926,233 ไร่ การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นหน่วยงานต่างๆ ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแล้วจำนวนกว่า 22 ล้านลิตร ให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง (วงเงิน 50 ล้านบาท) ในอำนาจของนายอำเภอและจังหวัดไปแล้วรวม 726 โครงการ วงเงิน 46 ล้านบาท
ส่วนการช่วยเหลือด้านเกษตร ได้สำรวจความเสียหายและจัดทำรายงานการขอรับความช่วยเหลือโดยใช้งบกลางของกรมส่งเสริมการเกษตร รวมพื้นที่การเกษตร 674,374 ไร่ เกษตรกร 114,227 ราย วงเงิน 413,823,675 บาท แบ่งเป็นข้าว 612,595 ไร่, พืชไร่ 49,610 ไร่, พืชสวน และอื่นๆ 12,169 ไร่
นายวินัยกล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาภัยแล้งระยะยาว จังหวัดฯ ได้จัดทำโครงการขอสนับสนุนงบกลางผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อขุดลอกฝาย ลำคลอง แก้มลิง สระน้ำ 371 โครงการ รวมงบประมาณ 1,193 ล้านบาท ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันภัยแล้งเริ่มคลี่คลายลงแล้ว 9 อำเภอ
ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำของ จ.นครราชสีมาลดปริมาณลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 โครงการมีปริมาณน้ำเหลือเพียง 265 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 28% ของความจุรวม 938 ล้าน ลบ.ม. โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว แหล่งน้ำดิบผลิตประปาป้อนเมืองโคราชและหลายอำเภอมีปริมาณน้ำเหลือเพียง 76 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 24% ของความจุ 314 ล้าน ลบ.ม. ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 22 โครงการมีปริมาณน้ำ 76 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 33% ของความจุรวม 226 ล้าน ลบ.ม.
จากนั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมช.คมนาคม และคณะ พร้อมผู้ว่าฯ นครราชสีมา เดินทางลงพื้นที่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมแจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนที่เดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยมี นายเอกชัย พรหมพันธ์ใจ นายก อบต.มะเกลือเก่า พร้อมชาวบ้านกว่า 500 คน รอให้การต้อนรับ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ โดยที่ จ.นครราชสีมาถือว่าประสบปัญหาแทบทั้งจังหวัด จึงได้ประสานงานหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่ประชาชน พร้อมกับให้เตรียมวางแผนแก้ปัญหาในระยะกลาง และระยะยาวต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เสนอให้ตนช่วยติดตามเรื่องในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ การจ่ายเงินชดเชยด้านพืชผลของเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย โดยใช้งบกลางของกรมส่งเสริมการเกษตร รวมประมาณ 600 ล้านบาท รวมถึงค่าชดเชยต่อไร่ที่กำหนดไว้ 606 บาทนั้นถือว่าน้อยมาก ซึ่งจะได้นำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาเพิ่มในระดับอัตราที่เหมาะสมต่อไป
ด้าน นายเอกชัย พรหมพันธ์ใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มะเกลือเก่า เปิดเผยว่า ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน ประสบปัญหาภัยแล้งมาตั้งแต่ปลายปี 2555 จนถึงขณะนี้ประชาชนในหลายพื้นที่เดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะในเขตรับผิดชอบเดือดร้อนกว่า 600 ครัวเรือน บางแห่งขาดแหล่งน้ำดิบผลิตประปา ต้องขอความอนุเคราะห์จากหลายหน่วยงานนำรถบรรทุกน้ำเข้ามาแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านโนนสมบูรณ์ ฝายเก็บกักน้ำซึ่งใช้เป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปา แห้งขอด ไม่มีน้ำผลิตประปามานานกว่า 2 เดือน จึงประสานทางจังหวัดฯ ให้เข้ามาเตรียมรื้อฝายและขุดลอกใหม่เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากกว่าเดิมในปีหน้าจะได้ไม่ประสบปัญหาเช่นนี้อีก อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้ประสานรถบรรทุกน้ำจากทั้งหน่วยงานทหาร สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 (ปภ.เขต 5) นครราชสีมา นำน้ำเข้ามาแจกจ่ายเพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว
“ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอีกด้านคือ ขณะนี้ต้องการให้หน่วยงานที่มีความพร้อมเข้ามาขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลตามจุดต่างๆ ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเป็นความต้องการอย่างเร่งด่วน และเชื่อว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งทั่วประเทศมีความต้องการคล้ายกัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ด้วย” นายเอกชัยกล่าว
