ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” ยังนอนซม เหตุอ่อนเพลีย มีเสมหะมาก และไอเล็กน้อย อาการโดยรวมดีขึ้น แพทย์เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนใกล้ชิดหลังฝนตกหนัก การรักษาเป็นไปอย่างประคับประคอง ตรวจประเมินอาการวันละ 4-5 รอบ ระบุถือว่าหลวงพ่ออาการหนักเหตุอายุมากถึง 90 ปี และมีโรคประจำตัวหลายโรค
วันนี้ (8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้ารักษาอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ด้วยอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และหลอดลมอักเสบ ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจอาการของหลวงพ่อคูณพร้อมด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยหลวงพ่อคูณยังคงนอนซมอยู่บนเตียงผู้ป่วย แพทย์ได้ทำการพ่นยาขยายหลอดลม ให้ฉันยาละลายเสมหะ และทำการดูดเสลดเสมหะ พร้อมกับเช็ดตัวก่อนให้อาหารเหลว
นพ.พินิศจัยเปิดเผยว่า ช่วงนี้คณะแพทย์ต้องตรวจอาการวันละ 3-4 รอบเพื่อประเมินผลการรักษา โดยเฉพาะการให้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำที่ให้มาได้ 4-5 วันแล้ว ซึ่งพบว่าตอบสนองต่อการรักษาและต้องให้ยาต่อเนื่องไปจนครบอย่างน้อย 10-14 วัน ส่วนอาการโดยภาพรวมดีขึ้น ไม่มีไข้มา 2-3 วันแล้ว ตื่นตัว รู้เรื่องดี อาการซึมเศร้าไม่มีแล้ว พูดคุยได้บ้าง แต่หลวงพ่อยังมีอาการเพลียต้องการพักผ่อนมากๆ สำหรับเสลดเสมหะยังมีมากอยู่ แพทย์ต้องช่วยดูดออกวันละ 2 ครั้ง แต่ช่วงที่อยู่วัดบ้านไร่ต้องดูดวันละ 3-4 ครั้ง และมีไอบ้างเล็กน้อย ขณะที่ผลการเพาะเชื้อเริ่มมีเชื้อแบคทีเรียขึ้นให้เห็นได้ชัดเจน
ช่วงนี้ให้หลวงพ่อทำกายภาพบำบัดอยู่บนเตียงเบาๆ ไปก่อน ส่วนการปั่นจักรยานไฟฟ้าคงต้องรอไปสักระยะหนึ่งเพราะยังแข็งแรงไม่พอ ประกอบกับช่วงนี้เกิดฝนตกหนักและมีละอองฝนมากต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ และที่สำคัญคงต้องของดเยี่ยม
“ส่วนที่ถามว่าอาการหลวงพ่อหนักแค่ไหนนั้น ต้องเรียนว่าหลวงพ่อคูณอายุ 90 ปีแล้ว และมีโรคประจำตัวหลายโรค ต้องถือว่าหนักอยู่แล้ว การรักษาต้องรักษาแบบประคับประคอง พร้อมกับประเมินอาการแบบชั่วโมงต่อชั่วโมงและวันต่อวันกันไป” นพ.พินิศจัยกล่าว