นครราชสีมา- อาการอาพาธของ“ หลวงพ่อคูณ ”ดีขึ้น โดยแพทย์ยังให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้องพักหลวงพ่อคูณอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเกรงจะติดเชื้อซ้ำซ้อนเข้าไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังถูกส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นการด่วน เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา ด้วยอาการไข้ขึ้น ซึมลงมีเสลดเสมหะมาก และความดันโลหิตสูง นั้น
ล่าสุดเช้าวันนี้ (6 พ.ค.) ที่บริเวณหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ฯ มี พยาบาลที่ผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าติดตามอาการหลวงพ่อคูณอย่างใกล้ชิด และลูกศิษย์ได้จัดเวรยามกันมานอนและคอยปรนนิบัติในห้อง โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้องพักหลวงพ่อคูณอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเกรงจะติดเชื้อซ้ำซ้อนเข้าไปอีก
นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า ในภาพรวมวันนี้อาการของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ยังคงจำวัดได้ดี 24 ชั่วโมงไม่มีอาการไข้ เริ่มตื่นและรู้สึกตัวดี ให้ศีลให้พรลูกศิษย์และพยาบาลที่มาเฝ้าไข้ได้ แต่ยังคงมีอาการอ่อนเพลีย และยังคงมีเสลดเสมหะเยอะอยู่ ทางคณะแพทย์ก็ยังคงให้การรักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำอยู่ ส่วนผลการตรวจก็เริ่มออกแล้วบ้างบางส่วน แต่ยังคงมีผลของการตรวจเลือดยังไม่ขึ้นจะต้องรอไปอีกประมาณ 5 วัน จึงจะทราบผล
อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ก็ยังคงมีการเฝ้าระวังและสังเกตอาการในเรื่องของภาวะแทรกซ้อน ที่อาจจะตามมา ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อซ้ำซ้อน หรือ ภาวะแทรกซ้อนในระบบอื่น เพราะว่าตัวหลวงพ่อเองก็มีโรคประจำตัวอยู่ เช่น โรคหัวใจ หรือว่าโรคทางสมอง ขณะนี้คณะแพทย์ยังคงให้การรักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะตัวเดิมอยู่อย่างน้อย 10 วัน เรื่องของการพักฟื้นคงต้องดูอาการหลังจากหยุดให้ยาปฏิชีวนะแล้ว เชื่อว่าอย่างเร็วที่สุดถ้าไม่มีอะไรแทรกซ้อนเลย อย่างน้อย ๆ ก็คงใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ขึ้นไปในการพักรักษาตัว
ทั้งนี้ นายแพทย์พินิศจัยยังได้กล่าวอีกว่าปัญหาก็คือระบบที่วางไว้มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุยกันตั้งแต่แรก ซึ่งมองว่าระบบที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเข้าที่เข้าทางกว่า ซึ่งเมื่อหลวงพ่อมาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนั้นเสลดเสมหะท่านดูลดลงชัดเจน
ส่วนหลวงพ่อจะกลับวัดได้เมื่อไหร่นั้นก็คงต้องให้แน่ใจจริง ๆ ว่า เมื่อหลวงพ่อกลับไปแล้วจะไม่เจอปัญหาเหมือนตอนที่กลับไปวัดบ้านไร่เมื่อวันที่ 5 เม.ย. จากนี้ไปทางคณะแพทย์ก็คงต้องมีการประสานงานกับคณะกลุ่มลูกศิษย์อีกครั้งหนึ่ง
นายแพทย์พินิศจัย ยังได้ฝากไปถึงลูกศิษย์ของหลวงพ่ออีกว่า ตอนนี้หลวงพ่อดีขึ้นมาก คณะแพทย์ได้เฝ้าติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยหลวงพ่ออาจจะมีภาวะแทรกซ้อนเข้ามาได้ แต่ในวันนี้ก็ถือว่าอาการของหลวงพ่อดีขึ้นมากก็คิดว่าการรักษาอาการอาพาธของหลวงพ่อนั้นมาถูกทางแล้วขอให้ลูกศิษย์สบายใจได้
