น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา รวมทั้งคณะแพทย์ที่ทำการรักษาอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ได้เข้าทำการตรวจร่างกายของหลวงพ่อคูณเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนได้อนุญาตให้หลวงพ่อคูณออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่แล้ว หลังจากที่หลวงพ่อคูณได้เข้ารักษาอาการอาพาธด้วยอาการปอดอักเสบ และพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2555
จากนั้น นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา น.พ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และลูกศิษย์ใกล้ชิดได้นำตัวหลวงพ่อคูณนั่งรถเข็น เข็นออกมาจากนอกห้องพักผู้ป่วย เพื่อไปขึ้นรถตู้หมายเลขทะเบียน นข 1 นครราชสีมา เป็นพาหนะเดินทางกลับวัดบ้านไร่ พร้อมด้วยคณะแพทย์ และพยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาที่ติดตามไปคอยดูแลหลวงพ่อคูณอย่างใกล้ชิดจนถึงวัดบ้านไร่ด้วย
ตลอดเส้นทางที่ลูกศิษย์เข็นรถที่หลวงพ่อคูณนั่งมานั้น ได้มีศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมากราบนมัสการ และรอส่งหลวงพ่อคูณกลับวัดบ้านไร่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนออกจากโรงพยาบาลหลวงพ่อคูณได้ให้พรคณะแพทย์ พร้อมโบกมือทักทายญาติโยม เพื่อแสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อคูณแข็งแรงดีแล้ว พร้อมกลับวัดบ้านไร่
น.พ.ณรงค์ กล่าวว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณดีขึ้นมากจนหายเป็นปกติแล้ว ร่างกายสดชื่นแข็งแรงขึ้น รับอาหารทางสายยางได้ดี ขณะที่ทางวัดบ้านไร่ได้มีการปรับปรุงห้องกุฏิของหลวงพ่อคูณใหม่ทั้งหมด พร้อมติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิภายในห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะแพทย์จึงอนุญาตให้หลวงพ่อคูณกลับไปพักฟื้นร่างกายที่วัดบ้านไร่ได้
ทั้งนี้อุณหภูมิภายในห้องพักของหลวงพ่อคูณที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 26 – 28 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ได้กำชับกับลูกศิษย์ใกล้ชิดให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามผู้ใดเข้าใกล้หลวงพ่อคูณในระยะ 2 เมตรอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ โดยตลอดระยะเวลาที่หลวงพ่อคูณจำวัดอยู่ที่วัดบ้านไร่ จะมีทีมแพทย์ และพยาบาลโรงพยาบาลด่านขุนทด คอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันดูแลหลวงพ่อคูณทุกวันอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
จากนั้น นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา น.พ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และลูกศิษย์ใกล้ชิดได้นำตัวหลวงพ่อคูณนั่งรถเข็น เข็นออกมาจากนอกห้องพักผู้ป่วย เพื่อไปขึ้นรถตู้หมายเลขทะเบียน นข 1 นครราชสีมา เป็นพาหนะเดินทางกลับวัดบ้านไร่ พร้อมด้วยคณะแพทย์ และพยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาที่ติดตามไปคอยดูแลหลวงพ่อคูณอย่างใกล้ชิดจนถึงวัดบ้านไร่ด้วย
ตลอดเส้นทางที่ลูกศิษย์เข็นรถที่หลวงพ่อคูณนั่งมานั้น ได้มีศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมากราบนมัสการ และรอส่งหลวงพ่อคูณกลับวัดบ้านไร่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนออกจากโรงพยาบาลหลวงพ่อคูณได้ให้พรคณะแพทย์ พร้อมโบกมือทักทายญาติโยม เพื่อแสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อคูณแข็งแรงดีแล้ว พร้อมกลับวัดบ้านไร่
น.พ.ณรงค์ กล่าวว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณดีขึ้นมากจนหายเป็นปกติแล้ว ร่างกายสดชื่นแข็งแรงขึ้น รับอาหารทางสายยางได้ดี ขณะที่ทางวัดบ้านไร่ได้มีการปรับปรุงห้องกุฏิของหลวงพ่อคูณใหม่ทั้งหมด พร้อมติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิภายในห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะแพทย์จึงอนุญาตให้หลวงพ่อคูณกลับไปพักฟื้นร่างกายที่วัดบ้านไร่ได้
ทั้งนี้อุณหภูมิภายในห้องพักของหลวงพ่อคูณที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 26 – 28 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ได้กำชับกับลูกศิษย์ใกล้ชิดให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามผู้ใดเข้าใกล้หลวงพ่อคูณในระยะ 2 เมตรอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ โดยตลอดระยะเวลาที่หลวงพ่อคูณจำวัดอยู่ที่วัดบ้านไร่ จะมีทีมแพทย์ และพยาบาลโรงพยาบาลด่านขุนทด คอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันดูแลหลวงพ่อคูณทุกวันอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
