ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แพทย์ระบุ “หลวงพ่อคูณ” ไม่มีไข้มา 48 ชม. อาการดีขึ้นตามลำดับ แต่มีเสมหะมากเหตุหลอดลมยังอักเสบ ต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนใกล้ชิด และงดเยี่ยมเด็ดขาด ปัดไม่ขัดแย้งกับลูกศิษย์แต่ยึดพ่อคูณเป็นศูนย์กลาง ระบุยังไม่ย้ายไป รพ.ศิริราช ขณะที่ รพ.มหาราชโคราชออกประกาศฉบับที่ 1 ระบุอาการโดยรวมดีขึ้นแต่ยังอ่อนเพลีย
วันนี้ (7 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้วยอาการหลอดลมอักเสบ และติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด นพ.พินิจจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า จากการติดตามอาการวันนี้ หลวงพ่อคูณดีขึ้นตามลำดับ รู้ตัว รู้เรื่อง รับอาหารผ่านทางสายยางได้ดี ไม่มีไข้มา 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังมีเสลดเสมหะมาก เนื่องจากมีภาวะหลอดลมอักเสบอยู่
สำหรับการรักษายังคงให้การรักษาแนวทางเดิมและเป็นแบบประคับประคองโดยให้ยาปฏิชีวนะฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำต่อเนื่อง จนครบอย่างน้อย 10 วัน จากนั้นคณะแพทย์จะประเมินอาการกันอีกครั้งว่าจะหยุดหรือจะเปลี่ยนเป็นการฉันแทน มาถึงตอนนี้ถือว่าหลวงพ่อคูณให้การตอบสนองต่อยาที่รักษา และยังไม่พบภาวะแทรกซ้อนในอวัยวะอื่นๆ เช่น หัวใจ หรือ สมอง แต่ยังต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิด โดยให้งดเยี่ยมอย่างเด็ดขาด
ต่อข้อถามว่าการเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ หลวงพ่อคูณจะพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนานแค่ไหน นพ.พินิจจัยกล่าวว่า หากอาการดีขึ้นทางคณะแพทย์ยินดีให้ท่านกลับไปพักที่วัดบ้านไร่ แต่ที่วัดต้องมีความพร้อมเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องรบกวนผู้ใหญ่ประสานทางลูกศิษย์ให้ดูเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเพราะความเชื่อใจไม่มีแล้วในตอนนี้ ทีมแพทย์เองต้องตรวจเช็กให้ละเอียดมากขึ้น เพราะจะปล่อยเหมือนที่ผ่านมาคงไม่ได้ เพราะท่านกลับไปแค่ 1 เดือนก็ต้องกลับมาโรงพยาบาลอีก ซึ่งหากเป็นเหตุสุดวิสัยทุกคนก็รับได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องสุดวิสัย (ระบบควบคุมอุณหภูมิภายในห้องกุฏิหลวงพ่อคูณมีปัญหาเรื่องกระแสไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง) แต่เป็นความบกพร่องที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งทางคณะกรรมการวัดเองก็บอกว่ายึดหลวงพ่อเป็นศูนย์กลาง แต่ทำไหมผลออกมาเช่นนี้ก็ยังไม่เข้าใจ
“ทางแพทย์เราไม่ต้องการคำตอบ เพียงแต่อยากให้แก้ไข เรื่องเงินหลวงพ่อก็ไม่น่ามีปัญหาในการที่จะจัดซื้อเครื่องสำรองไฟฟ้า หรืออื่นๆ แต่ทำไมไม่ทำก็ไม่ทราบ สิ่งที่พูดไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างแพทย์กับลูกศิษย์ แต่เพื่อหลวงพ่อก็ต้องพูด” นพ.พินิจจัยกล่าว
ส่วน การจะย้ายหลวงพ่อคูณไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ หรือไม่นั้น นพ.พินิจจัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหลวงพ่อคูณ ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ปรึกษาอาจารย์แพทย์โรงพยาบาลศิริราชตลอด และประเมินอาการตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องย้ายท่านไปโรงพยาบาลศิริราชแต่อย่างใด เว้นแต่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งทางทีมแพทย์ได้เตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บ่ายวันเดียวกันนี้ (7 พ.ค.) ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกประกาศเรื่อง อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ฉบับที่ 1 ระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 4 พฤษภาคม 2556 พระเทพวิทยาคม มีอาการไข้สูง หอบ เสมหะมากขึ้น ปัสสาวะขุ่นและซึมลง คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ทำการตรวจวินิจฉัยโรค ผลการตรวจเบื้องต้น สรุปได้ว่า สาเหตุมาจากหลอดลมอักเสบและการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ สำหรับการรักษา คณะแพทย์ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำและรักษาแบบประคับประคองตามอาการ
สำหรับผลการตรวจในวันนี้ (7 พ.ค.) อาการโดยรวมดีขึ้น ไข้ลดลง พูดคุยรู้เรื่อง รับอาหารได้ดี แต่ยังคงมีอาการอ่อนเพลียและมีเสมหะมาก คณะแพทย์ยังคงให้การรักษาแนวทางเดิม โดยเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะตามมา จึงขอความร่วมมือประชาชน งดการเยี่ยมอาการอาพาธ เพื่อให้พระเทพวิทยาคมได้พักผ่อน
ขณะที่บริเวณหน้าห้องพักผู้ป่วยของหลวงพ่อคูณ ได้มีการติดป้ายประกาศงดเยี่ยม และล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่พยาบาลได้นำแผ่นสติ๊กเกอร์สีขาวทึบมาปิดบริเวณช่องกระจกประตูทางเข้าด้านหน้าห้องหลวงพ่อคูณเพื่อไม่ให้คนนอกสามารถมองผ่านกระจกเห็นด้านในห้องได้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดบางส่วนว่าทำไมทางโรงพยาบาลถึงต้องทำขนาดนี้