xs
xsm
sm
md
lg

“ตร.ท่าเรือ” เรียกสอบรองปลัดฯ ท่าหลวง หาปมสะพานถล่ม แฉเหตุซ่อมไม่ได้มาตรฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจ สภ.ท่าเรือ เรียกสอบแล้ว “รองปลัดเทศบาลตำบลท่าหลวง” หนึ่งในคณะกรรมการตรวจงานการสร้างสะพาน 200 ปี หาสาเหตุปมสะพานถล่ม เผยก่อนเกิดเหตุสะเทือนขวัญ สะพานนี้ได้มีการซ่อมแซมมาแล้วในระยะเวลาเพียงสั้นๆ แต่ก็ไม่ได้มาตรฐาน และเตรียมที่จะปิดการซ่อมใหม่ 29-30 เม.ย.นี้ แต่ไม่ทันได้มาเกิดเหตุสลดเสียก่อน

วันนี้ (29 เม.ย.) พ.ต.ท.วิโรจน์ วังวล พนักงานสอบวน สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เชิญตัว นายพิลึก ชัชวงษ์ รองปลัดทศบาลตำบลท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มาสอบปากคำหลังจากที่สะพานเคเบิลคนเดินข้าม (สะพานแขวน) หรือสะพาน 200 ปี ซึ่งเป็นสะพานแขวนข้ามแม่น้ำป่าสักของชาวบ้านระหว่างหมู่ 5 และหมู่ 6 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ความกว้าง 2.20 เมตร ยาว 110 ความสูงจากระดับน้ำสูงสุด 9 เมตร ได้พังทลายลงมาจนเป็นเหตุให้ประชาชนที่สัญจรไป-มาโดยใช้สะพานนี้ได้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บหลายสิบราย ทรัพย์สินเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง ว่าทำไมสะพานที่ไม่พร้อมในการใช้งาน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจซ่อมแซม ก็ยังเปิดให้ประชาชนใช้งานจนเกิดอุบัติเหตุหมู่ขึ้นในครั้งนี้ และมาตรฐานในการรับ-ส่งมอบงานในการก่อสร้างตลอดจนการตรวจซ่อม

พ.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสะพานดังกล่าวเป็นสะพานที่สร้างทดแทนจากสะพานเดิมซึ่งเป็นเหล็ก และชำรุดตามสภาพการใช้งาน โดยใช้งบประมาณการก่อสร้าง 8,290,000 บาท ซึ่งเป็นงบขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พระนครศรีอยุธยา ครึ่งหนึ่ง และเป็นของเทศบาลตำบลท่าหลวงอีกครึ่งหนึ่ง มีสัญญาว่าจ้างให้บริษัทดีไนท์ 2009 จำกัด เป็นผู้ก่อสร้าง เมื่อปี 2554 จำนวน 5 งวดงาน แล้วรับมอบงานเมื่อเดือน ก.ค.55 โดยมีคณะกรรมการในการตรวจรับงานจำนวน 6 คน ซึ่งมาจากเทศบาลตำบลท่าหลวง จำนวน 3 คน โยธาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1 คน ผู้แทนชุมชน 2 คน

หลังจากเปิดใช้งานได้ระยะหนึ่ง จากการตรวจสอบสภาพการใช้งานของสะพานพบว่า มีความผิดปกติของสะพานจนเป็นเหตุให้ต้องมีการปิดซ่อมอีกเมื่อวันที่ 8-15 มี.ค.56 ปีนี้ หลังจากนั้นก็เปิดให้ใช้งานต่ออีกจนถึงเดือน เม.ย.56 แต่สะพานดังกล่าวก็ยังมีปัญหาหาเรื่องการเอียงตัวของสะพาน จึงจะได้กำหนดวันเพื่อดำเนินการซ่อมอีกครั้งในวันที่ 29 เม.ย.56 นี้ และวันที่ 30 เม.ย. แต่ก็ยังให้ใช้งานตามปกติ โดยมิได้มีการปิดป้ายประกาศแจ้งเตือนโดยเด็ดขาด แค่เตือนให้ระมัดระวังเพียงเดียว จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นก่อนการซ่อมแซม

“ซึ่งสะพานดังกล่าวเคยมีคนคัดค้านในการเปิดให้ใช้งาน เกรงว่าจะไม่ได้ความปลอดภัย แต่ทางเทศบาลก็คงยังเปิดให้ชาวบ้านใช้งานตามปกติ จึงต้องตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของผู้รับเหมา ผู้ตรวจงาน วิศวกร โยธาธิการ หรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างสะพานว่าเป็นไปตามระบบ และได้มาตรฐานหรือไม่อย่างไร แล้วเมื่อมีการชำรุด หรืออยู่ระหว่างการซ่อมแซมทำไมยังให้ประชาชนใช้งานโดยไม่มีการแจ้งเตือนเป็นทางการ”

ส่วนนายบำรุง ม่วงวิจิตร อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ม. 9 ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าหลวง กล่าวว่า สำหรับสะพานดังกล่าวเคยมีชาวบ้านคัดค้าน เพราะผู้รับเหมาที่สร้างสะพานแห่งนี้ได้ไปซื้อลวดสลิงจากร้านค้าธรรมดาที่ไม่ได้มาตรฐานมาทำเป็นลวดสลิงสำหรับแขวนสะพาน ชาวบ้านจึงเกรงว่าจะเกิดเหตุอันตรายต่อชีวิตชาวบ้านที่ใช้สะพานนี้ขึ้นได้ อย่าเอาชีวิตชาวบ้านมาเป็นหนูทดลอง แต่ทางเทศบาลฯ ยังดื้อ และคงเปิดให้ใช้จนมาเกิดเหตุร้ายขึ้นจนได้ ชาวบ้านในที่เกิดเหตุเล่าว่า เมื่อ 2 วันก่อน ชาวบ้านบางรายได้ยินเสียงลั่นของสะพานแต่ก็ไม่คิดอะไร จนมาเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตกันจำนวนมาก

ทางด้านนายสุชาติ ม่วงสวย อายุ 54 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าหลวง อยู่บ้านเลขที่ 67/2 ม.6 ต.ท่าหลวง กล่าวว่า ตนได้คัดค้านการเปิดใช้งานโดยมิได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานของความปลอดภัยตลอด ซึ่งที่จริงในวันนี้ตนก็ได้นัดหมายว่าจะมีการประชุมสภาเพื่อพูดคุยกันเรื่องความไม่โปร่งใสในการก่อสร้าง และซ่อมแซมสะพาน แล้วยังปล่อยให้คนใช้งานด้วยการเสี่ยงอันตราย แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อนจนได้


กำลังโหลดความคิดเห็น