ปชป.บุก กกต.รอบสอง จี้สอบขนคนลงคะแนน-ให้ร้าย-ตำรวจข่มขู่ (ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปชป.บุกกกต.เชียงใหม่รอบสอง ยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานทั้งภาพ-คลิปให้ กกต.สอบสวน 3 กรณี ขนคนไปเลือกตั้งล่วงหน้า-ดีเจอ้อมด่าอภิสิทธิ์-ตำรวจซุ่มจับตาบ้านกิ่งกาญจน์ ยันพบความเชื่อมโยงพรรคคู่แข่ง-ขรก.ไม่เป็นกลาง ชี้ผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน ระบุ กกต.ต้องเร่งดำเนินการ อย่าดึงเรื่อง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันทุกฝ่าย

วันนี้ (19 เม.ย.) นายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 ปชป. และคณะซึ่งประกอบด้วยนายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ ส.ส.ชุมพร นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา นายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ ส.ส.สงขลา น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ และนางแสงตะวัน ณ เชียงใหม่ คัมภีรญาณนนท์ บุตรสาวนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยืนหนังสือร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบกรณีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง รวมทั้งติดตามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่ง ปชป.ได้ยื่นเรื่องต่อ กกต.ไปแล้วเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา

การเข้ายื่นหนังสือของพรรคต่อ กกต.ครั้งนี้ ได้ร้องเรียนใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1. กรณีขนคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา 2. กรณีการกล่าวให้ร้ายผู้สมัครและผู้แทนของพรรค ให้ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง และ 3. กรณีบุคคลต้องสงสัย ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เฝ้าติดตามตรวจสอบ รวมทั้เข้าตรวจค้น คุกคามผู้สมัคร และคณะทำงานของพรรค จนสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้สมัครและคณะทำงาน

ทั้งนี้ ในประเด็นแรก ปชป.อ้างว่ามีหลักฐานเป็นภาพและคลิปการนำยานพาหนะ ซึ่งดำเนินการโดยผู้นำชุมชนในท้องถิ่น นำประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 3 มาลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า โดยระบุว่ามีความพยายามของนายอำเภอและผู้นำชุมชนในพื้นที่ ระดมคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามากผิดสังเกต ส่วนประเด็นที่ 2 เป็นผลจากกรณีที่นางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ปรากฏตัวที่การปราศรัยใหญ่ของพรรค ที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา และได้ตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ซึ่งอยู่บนเวทีปราศรัยว่าเป็นฆาตกร

ขณะที่ประเด็นที่ 3 เป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่ของพรรคสามารถควบคุมตัวด.ต.วิทวัส มณีวงค์ สังกัดงานจราจร สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ และส.ต.ต.โสภณ ชมภูงาม สังกัดงานป้องกันและปราบปราม สภ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ไว้ได้หลังจากทั้งสองคนซุ่มติดตามดูความเคลื่อนไหวภายในบ้านของนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครของพรรค เมื่อวันที่ 18 เมษายน โดยตำรวจทั้ง 2 นายให้ข้อมูลว่าได้รับคำสั่งให้มาช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับผู้สมัคร แต่เจ้าหน้าที่ของพรรคระบุว่าทั้ง 2 นายและบุคคลอื่นที่สวมชุดดำ มีพฤติกรรมเฝ้าติดตามทั้งผู้สมัครและทีมงานของพรรค โดยมีท่าทีข่มขู่คุกคาม มีการพกอาวุธ และเข้าไปตรวจสอบบ้านพักทีมงานของพรรคด้วย

โดยก่อนการยื่นหนังสือต่อ กกต. น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำคลิปบางส่วนซึ่งระบุว่าจะยื่นเป็นหลักฐานให้กับ กกต.มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยในส่วนของคลิปการขนประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น พบว่ารถตู้คันหนึ่งซึ่ง น.ส.มัลลิกาอ้างว่ารับส่งหลายเที่ยวตลอดวัน ติดป้ายสัญลักษณ์ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ส่วนกรณีของดีเจอ้อมได้นำภาพนิ่งที่นางกัญญาภัคเดินตามคณะหาเสียงของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่านางกัญญาภัคไปร่วมขบวนหาเสียงกับพรรคเพื่อไทย หลังจากมากล่าวโจมตีนายอภิสิทธิ์ที่เวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์เพียง 1 วัน

ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำคลิปมาแสดงด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งระบุว่าจากการตรวจสอบพบว่าตำรวจทั้ง 2 นายมีความใกล้ชิดกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น อีกทั้งยังพกอาวุธปืนไม่มีทะเบียน และรายชื่อยังไม่ตรงกับชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พรรคได้รับแจ้งว่าจะมาทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้ผู้สมัครด้วย

ด้านนายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 ปชป. กล่าวว่า การมาร้องเรียนทั้ง 3 ประเด็นมีหลักฐานชัดเจนว่ามีทั้งการกระทำที่ไม่เป็นกลางของข้าราชการ การกระทำผิดวินัย และการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งการติดตามข่มขู่คุกคามคนของพรรค ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น จึงอยากให้ กกต.เร่งดำเนินการพิจารณาสืบสวนสอบสวน เนื่องจากที่ผ่านมา กกต.จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าได้สร้างความเท่าเทียมให้พรรคการเมืองอื่น ซึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่ครั้งนี้ทางพรรคมีหลักฐานซึ่งได้ยื่นให้กับ กกต.แล้ว จึงหวังว่า กกต.จังหวัดจะเร่งพิจารณา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และเป็นการแสดงให้เห็นว่า กกต.สามารถจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมได้จริง

นอกจากนี้ยังอยากให้ กกต.เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีที่พรรคเสนอให้มีการย้ายนายอำเภอทั้ง 3 อำเภอของเขตเลือกตั้งที่ 3 ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากไม่มั่นใจในความเป็นกลาง โดยเรื่องทั้งหมดเห็นว่า กกต.ควรจะดำเนินการให้เสร็จก่อนวันเลือกตั้ง

คลิกเพื่อชมคลิป :