ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อุกอาจคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าชิงทองกลางห้างดังที่ภูเก็ต ยิงพลเมืองดีดับ ก่อนกวาดทองไป 106 บาท มูลค่ากว่า 2,321,400 บาท หลบหนีลอยนวล ตำรวจตั้งชุดไล่สกัดยังไร้วี่แวว
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 เม.ย.นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจเมืองภูเก็ต รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองห้างทองซีพี โกล์ดมาสเตอร์ แอนด์จิวเวลรี สาขาห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ภูเก็ต ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) ม.5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และยิงพลเมืองดีซึ่งเป็นลูกค้าที่เข้าไปซื้อทองได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
หลังรับแจ้ง พ.ต.ต.เฉลียว ท้ายฮู้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.วันไชย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง พนักงานสืบสวนชำนาญการ สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.กิติศักดิ์ หนูผึ้ง สารวัตรวิทยาการจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพย์ญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุเป็นร้านทองซึ่งอยู่ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาภูเก็ต โดยมีประชาชนมุงดูเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ตก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือ นายนายอภิเชษฐ์ ชูเกลี้ยง อายุ 32 ปี อาชีพบาร์เทนเดอร์ที่โรงแรมโนโวเทลป่าตอง ถูกยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ส่วนคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางด้านหลังโรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าหน้าตำรวจได้สกัดจับคนร้ายทุกเส้นทางแล้ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในร้าน พบพนักงานของร้านต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่บริเวณเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นตู้ที่เก็บทองคำรูปพรรณ มีร่องรอยถูกคนร้ายหยิบเอาทองรูปพรรณไปหลายช่อง ตรวจสอบพบทองคำรูปพรรณหายไป จำนวน 106 บาท ประกอบด้วย สร้อยคอหนัก 3 บาท จำนวน 8 เส้น สร้อยข้อมือ หนัก 3 บาท จำนวน 5 เส้น สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท จำนวน 36 เส้น สร้อยข้อมือหนัก 2 สลึง จำนวน 14 เส้น สร้อยข้อมือหนัก 1 สลึง จำนวน 106 เส้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายที่เข้าก่อเหตุได้ตั้งแต่ช่วงที่เดินเข้ามาจนถึงช่วงที่ลงมือก่อเหตุ พบว่าเป็นชายร่างท้วม สูงประมาณ 165 เซนติเมตร สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำแขนยาว สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมรองเท้าสีดำ สวมหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบ ปิดหน้าด้วยผ้าปิดจมูกสีขาว พกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าไปในร้าน พร้อมกับเดินอ้อมไปด้านหลังเคาน์เตอร์ ก่อนที่จะใช้มือกวาดทองคำในตู้กระจกใส่ในกระเป๋าสีดำที่เตรียมมา
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่คนร้ายกำลังกวาดทองอยู่นั้น พลเมืองดีซึ่งกำลังเลือกซื้อทองอยู่ที่ร้านที่เกิดเหตุพร้อมกับแฟนสาวได้เดินเข้าไปในบริเวณจุดที่คนร้ายยืนอยู่ แต่ถูกคนร้ายชักอาวุธปืนยิงเข้าใส่ทันที 1 นัด ทำให้พลเมืองดีล้มลงไปนอนแน่นิ่ง และคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงซ้ำเข้าไปอีก 1 นัด หลังจากนั้นคนร้ายหันไปหยิบทองต่อจนเป็นที่พอใจ ก่อนที่จะวิ่งออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์พร้อมยิงปืนข่มขู่ไม่ให้พนักงานรักษาความปลอดภัยตามอีก 1 นัด หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปทางซอยหลังโรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต
พล.ต.ต.โชติ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก คนร้ายยิงเข้าใส่ชาวบ้านโดยที่ชาวบ้านไม่มีอาวุธจนเสียชีวิต ขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยสกัดจับกุมคนร้ายแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาไว้ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ซึ่งในส่วนของคนร้ายนั้นได้มีการเผยแพร่ภาพออกไปแล้ว หากประชาชนพบเห็นบุคคลดังกล่าวให้แจ้งข้อมูลมายังตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากคนร้ายเป็นคนที่มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมมาก
อย่างไรก็ตาม เวลา 23.00 น. วันนี้ (8 เม.ย.) จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งหมดเพื่อวางแผนติดตามจับกุมคนร้าย โดยมีรองผู้บัญชาการภาค 8 ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้มากำกับดูแลคดีนี้ร่วมประชุมด้วย
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีคนร้ายก่อเหตุชิงทอง และยิงพลเมืองดีเสียชีวิตว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น และรู้สึกสายดายคนดีๆ ที่ต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามพนักงานของร้านทองที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพนักงานคนหนึ่งเห็นคนร้ายถือปืนเข้าไปในร้านจึงได้ตะโกนบอกพนักงานคนอื่นๆในร้านว่ามีโจรปล้น หลังจากนั้นพนักงานก็หมอบลงกับพื้น ส่วนคนร้านก็ได้อ้อมเข้าไปที่หลังเคาน์เตอร์พร้อมกับบอกให้พนักงานอยู่เฉยๆ อย่าวิ่งหนี ถ้าวิ่งหนีจะยิง ซึ่งขณะนั้นภายในร้านทองมีลูกค้ากำลังซื้อทองอยู่ และมีผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อขาวพยายามที่จะเข้าไปจับคนร้ายจึงถูกยิงสวนมา 2 นัด จนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา