ประจวบคีรีขันธ์ - พิษพายุฤดูร้อนทำบ้านเรือนชาวประจวบฯ พังกว่า 400 หลังคาเรือน เรือประมงกว่า 50 ลำ ผู้ว่าฯ นำทีมเข้าสำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลือ เผยนาทีระทึก 2 พ่อลูกเจ้าของเรือ ล.โชคอริยา กระโดดน้ำหนีตายฝ่าคลื่นสูง 5 เมตร ว่ายเข้าฝั่งกว่า 1 ชั่วโมง รอดตายหวุดหวิด ส่วนเรือเหลือแต่ซาก
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพายุฤดูร้อนถล่มชายฝั่งทะเลในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า ล่าสุด วันนี้ (13 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น. นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางปรียา ศรีวัฒนตระกูล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ ป้องกันจังหวัดฯ ปลัดอำเภอเมือง นายก อบต.อ่าวน้อย พร้อมปลัด อบต.อ่าวน้อย ได้เดินทางไปยังวัดอ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบฯ พร้อมพบกับชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนที่พัดถล่มเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราษฏร และเรือประมง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้
นายสุเทพ รื่นถวิล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังวัดประจวบฯ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในอำเภอเมืองประจวบฯ บ้านเรือนเสียหาย 132 ครัวเรือน อำเภอสามร้อยยอด บ้านเรือนเสียหาย 101 ครัวเรือน อำเภอทับสะแก บ้านเรือนเสียหาย 86 ครัวเรือน อำเภอบางสะพานน้อย บ้านเรือนเสียหาย 21 ครัวเรือน อำเภอบางสะพาน บ้านเรือนเสียหาย 21 ครัวเรือน และที่อำเภอหัวหิน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 2 ครัวเรือน สำหรับเรือประมงในพื้นที่อำเภอเมือง เสียหายรวมทั้งสิ้น 53 ลำ
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า การช่วยเหลือเบื้องต้นทาง อบต.อ่าวน้อย จะเป็นผู้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องของบ้านที่เสียหาย และเรื่องของเรือประมง ซึ่งเรือประมงจะได้การช่วยเหลือลำละ 10,000 บาท ตามขั้นตอนของกฎหมาย สำหรับเรือที่ไม่ได้ทำการประมง แต่ในส่วนที่ทำการประมงและเสียหายทั้งลำก็จะดำเนินการช่วยเหลือตามกฎระเบียบ พร้อมกันนี้ ขอให้ผู้เสียหายมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานต่อไป
นอกจากนี้ ทางผู้ว่าราชการฯ และนายกเหล่ากาชาด นายก อบต.อ่าวน้อย ยังได้ร่วมกันมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้เดือดร้อนในครั้งนี้ อีกทั้งยังได้ลงไปตรวจสภาพความเสียหายของเรือประมงที่ชายหาดอ่าวน้อย
ด้านนายจิรายุ สะวัญชะนะ อายุ 47 ปี ชาวประมงที่ต้องเผชิญกับพายุฤดูร้อนกลางทะเล ได้เล่านาทีระทึกช่วงเกิดเหตุว่า โชคดีที่ตนกับลูกชายวัย 19 ปี รอดชีวิตมาได้ โดยช่วงเย็นวานนี้ (12 เม.ย.) ตนได้ออกเรือไปไดหมึกตามปกติกับลูกชายอยู่บริเวณหน้าทะเลอ่าวน้อย จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ขณะที่กำลังทอดสมอทำการประมงอยู่นั้นก็เริ่มมีลมพายุ และฝน จนกระทั่งคลื่นลมในทะเลเริ่มรุนแรงคลื่นเริ่มสูงขึ้นซัดกระหน่ำมาบนลำเรืออย่างต่อเนื่อง ช่วงนั้นคลื่นสูงประมาณ 4-5 เมตร ตนจึงตัดสินใจให้ลูกชายตัดสมอเรือทิ้งเพื่อที่จะนำเรือกลับเข้าฝั่ง
แต่คลื่นลมพายุเริ่มหนักขึ้น ตนจึงให้ลูกชายคว้าแกลลอน และกระโดดลงน้ำทันที ต่อจากนั้น ตนก็ตัดสินใจกระโดดลงทะล และประคองลูกชายว่ายเข้าฝั่งใช้เวลานานกว่า 1 ชม.จนขึ้นฝั่งมาได้ และกลับเข้าบ้านพัก ช่วงนั้นคิดว่าเรือตนคงยังไม่เป็นอะไร พอเริ่มสว่างก็มองไม่เห็นเรือ จนกระทั่งคลื่นซัดเศษไม้และป้ายชื่อเรือ โชคอลิยา มาบนชายหาด ตนเอง และครอบครัวถึงกับเข่าอ่อน เพราะเรือที่ใช้ทำมาหากินวันนี้ไม่เหลืออีกแล้ว วันนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี ตนเองบอกกับลูกชายเสมอว่าโชคดีที่รอดชีวิตมาได้
ด้านลุงบุญมาก เสียงใหญ่ ชาวบ้านอ่าวน้อยเชื่อว่า เหตุที่เกิดขึ้นมันคืออุกาฟ้าเหลืองก็คือพายุ ซึ่งปกติจะเกิดในช่วงตอนเย็น แต่เดี๋ยวนี้กลับเกิดในช่วงกลางคืน นี่นับว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต เพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์ ชาวประมงส่วนใหญ่จึงไม่ได้ไปออกเรือ หากไม่ใช่วันสงกรานต์คงต้องเกิดการสูญเสียอย่างแน่นอน ก็ได้แต่หวังว่าคืนนี้พายุลูกนี้คงจะไม่เกิดขึ้นอีก