ประจวบคีรีขันธ์ - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบฯ ออกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ร่วมกับ จนท.หน่วยพิทักษ์ฯ ที่น้ำตกขาอ่อน ติดชายแดนไทยพม่า ที่ตำบลชัยเกษม อำเภอบางสะพาน เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติของขุนเขา ป่าไม้ และสายน้ำตกในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน
อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงเป็นแหล่งรวมของทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณไม้ สัตว์ป่า แหล่งน้ำอันสำคัญหลายสายอั นจะนำให้ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง มีความน่าสนใจน่าศึกษา น่าค้นหา และน่าสัมผัสอย่างยิ่ง
สิ่งเหล่านี้เองที่ก่อกำเนิดความงดงามทางธรรมชาติมากมาย ทำให้ทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางซึ่งรับผิดชอบดูแลน้ำตก ทั้งน้ำตกขาอ่อน อ.บางสะพาน น้ำตกเขาล้าน และน้ำตกบัวสวรรค์ อ.ทับสะแก ต้องดูแลพื้นที่แห่งนี้ไว้่อย่างเข้มงวดเพื่อรักษาความหลากหลายทางธรรมชาติไว้
และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จึงได้ร่วมกับ ททท.ประจวบคีรีขันธ์ ออกสำรวจน้ำตกขาอ่อน เพื่อเตรียมประชาสัมพันธ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
น.ส.พสิษฐ์ตา อินทร์พันธ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายราชัน บุญอยู่ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง นายวรวิทย์ อิ่มทรัพย์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์น้ำตกขาอ่อน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯ น้ำตกขาอ่อน และสื่อมวลชน ได้ออกเดินทางสำรวจเส้นทางการขึ้นไปสัมผัสกับธรรมชาติของ “น้ำตกขาอ่อน” หรือ “น้ำตกทับมอญ” ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาตะนาวศรี ในพื้นที่ ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งน้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมเพียง 15 กม.เท่านั้น การเดินทางในปัจจุบันสะดวกสบาย มีเพียงทางเข้าน้ำตกเท่านั้นที่ยังคงเป็นถนนลูกรังอยู่เพียง 1.5 กม.เท่านั้น ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสองข้างทางซึ่งเป็นสวนมะพร้าว รวมทั้งก่อนถึงบริเวณหน่วยพิทักษ์น้ำตกขาอ่อน ยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านมรสวบ และอ่างเก็บน้ำบ้านหนองบอนได้อีกด้วย
เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์น้ำตกขาอ่อน พาเจ้าหน้าที่ ททท.ประจวบคีรีขันธ์ และสื่อมวลชนเดินลัดเลาะไปตามลำธาร และโขดหิน ตลอดสองข้างทางขึ้นสู่น้ำตกขาอ่อน เป็นป่าไผ่และต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นปกคลุมผืนป่าจนร่มรื่น
สำหรับน้ำตกขาอ่อน หรือน้ำตกทับมอญแห่งนี้ มีด้วยกัน 9 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป
ระหว่างทางมีพืชพันธุ์ไม้หลายชนิดขึ้นอยู่ริมลำธาร ไม่ว่าจะเป็นมอส เฟิร์นข้าหลวง เฟิร์นเจ้างูเขียว ตลอดจนพืชชั้นต่ำ ซึ่งจะมีให้พบเห็นในพื้นที่ชุ่มชื้นตามน้ำตก และช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น เสียงสายน้ำทีไหลคดเคี้ยวผ่านซอกหินใหญ่เล็ก ไหลตกจากหน้าผาน้ำตกแต่ละชั้นลดหลั่นกันไปแผ่กระจายตกลงสู่ด้านล่าง
ในช่วงปลายฝนต้นหนาว การเดินทางขึ้นไปยังน้ำตกแต่ละชั้นของน้ำตกขาอ่อน ดูไม่ยากเย็นมากนัก แต่ละชั้นยังมีจุดนั่งพักผ่อนเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำตกชั้นที่ 5 ซึ่งมีความโดดเด่น โดยเฉพาะเนื่องจากจะมีความเย็นเปรียบเสมือนห้องแอร์ธรรมชาติ ไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างทางยังมีผีเสื้อแมลงปีกสวยบินวนเวียนอยู่เป็นจำนวนมาก
ทุกคนไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปรีบก้าวย่างไปตามทางเดินตามโขดหินผ่านขึ้นไปพักเหนื่อยบริเวณน้ำตกชั้นที่ 6 และชั้นที่ 7 ซึ่งมีความสวยงามแตกต่างกันไปสภาพของน้ำตกอาจมีความงดงาม มีน้ำตกหลายชั้นอยู่ในชั้นเดียวกันนั่นเอง เมื่อมาถึงชั้นนี้แล้วหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะยืนสูดอากาศอันบริสุทธิ์ ท่ามกลางขุนเขาลำเนาไพร และสายน้ำที่เย็นฉ่ำ
หลังจากหายเหนื่อย ทุกคนก็ออกเดินกันต่อเดินขึ้นไปยังน้ำตกชั้นที่ 9 ซึ่งสายน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาด้านบนที่มีความสูงราว 30 เมตร สายน้ำทิ้งตัวลงกระทบกับหน้าหินธรรมชาติด้านล่างก็ไหลลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่
สำหรับน้ำตกชั้นนี้ถือเป็นชั้นที่มีความงดงามที่สุด ซึ่งเปรียบเสมือนสปาธรรมชาติจริงๆ ส่วนต้นน้ำของสายน้ำตกแห่งนี้ไหลมาจากเทือกเขาตะนาวศรีติดชายแดนไทยพม่า
น.ส.พสิษฐ์ตา อินทร์พันธ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน การเดินทางท่องเที่ยวแบบเชิงนิเวศกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพราะได้สัมผัสทั้งขุนเขา ป่าไม้ น้ำตก นอกจากนี้ ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ตราบใดที่การเดินทางแสวงหาความงามของธรรมชาติไม่มีวันที่สิ้นสุด ตราบใดที่มนุษย์ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเอาไว้ เราก็จะได้แลเห็นความงดงามของธรรมชาติได้ตามฤดูกาล
“ในช่วงปีใหม่ปีนี้ ก็อยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสกับธรรมชาติของน้ำตกขาอ่อน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3251-3885 สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์”
