ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มส่งแหนมวัย 42 ปี จิตใจงามพบกระเป๋าเงินตกข้างทาง เปิดดูภายในพบเงินสด 9 หมื่น เช็ดเงินสดอีก 1 แสน รีบนำส่งสื่อให้รีบตามหาเจ้าของ
วันนี้ (8 เม.ย.) ฝ่ายข่าวของบริษัท โสภณเคเบิล ที.วี.พัทยา ได้รับการประสานงานจากหนุ่มวัย 42 ปี ในการขอให้ช่วยเป็นสื่อกลางในการตามหาเจ้าของเงินสดกว่า 1 แสนบาทที่ได้ทำตกไว้ข้างทาง โดยนายทวี พันธ์วิลัย อายุ 42 ปี ได้เดินทางมาที่บริษัทโสภณเคเบิล ที.วี. พร้อมกับกระเป๋าเงินแบบคาดเอวสีน้ำเงิน ซึ่งภายในมีเงินสด 9 หมื่นบาท และเช็คเงินสดธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเทสโก้ โลตัส พัทยาหนือ สั่งจ่ายในนาม นพรัตน์ ดีบุญชัย อีกจำนวนเงิน 106,146 บาท
นายทวี เล่าว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับจากการส่งแหนมให้แก่ลูกค้า ระหว่างทางบริเวณสี่แยกทางรถไฟ-หนองเกตุใหญ่ ฝั่งขาเข้าพัทยา ก็พบกระเป๋าดังกล่าววางอยู่ริมถนน จึงได้เข้าไปดูนึกว่าเป็นกระเป๋าธรรมดา แต่เมื่อเปิดดูกลับต้องตกตะลึง เนื่องจากว่าภายในมีเงินสดฉบับละ 1,000 บาท 90 ใบ พร้อมเช็คเงินสดอีก 1 ฉบับ
ด้วยความตกใจจึงได้นำกระเป๋ากลับบ้านเพื่อปรึกษากับภรรยา แต่ด้วยความคิดที่ว่าคนที่ทำหายจะต้องเดือดร้อน ภรรยาจึงได้บอกว่าให้นำคืนเจ้าของเลยตัดสินใจมาที่บริษัทโสภณเคเบิล เพื่อหาเจ้าของคืน ทั้งนี้ หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวจึงได้ทำการประสานยัง พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ในฐานะตัวแทนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการรับมอบ และส่งหาเจ้าของ
พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องราวดังกล่าวต้องยอมรับว่า นายทวี เป็นที่มีจิตใจดีคนหนึ่งในสังคม ปัจจุบันหาคนแบบนี้ได้ยากมาก สำหรับเงินที่ได้รับมอบในวันนี้จะได้เร่งติดตามหาเจ้าของเพื่อมารับคืน ซึ่งคาดว่าน่าจะติดตามมาได้ไม่ยาก เนื่องจากว่าในเช็คได้ระบุชื่อเจ้าของเอาไว้ชัดเจน ทั้งนี้ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการมอบประกาศเชิดชูเกียรติเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ครอบครัวนายทวี ต่อไปด้วย
จากนั้นไม่นาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการติดตามเจ้าของเงินได้ทราบชื่อ นายเรืองศักดิ์ ดีบุญชัย อายุ 50 ปี เจ้าของร้านขายข้าวสารเรือนเกษตรนาเกลือ ซึ่งได้ทำการแจ้งความไว้ที่ สภ.บางละมุง เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ว่าเงินที่ได้จากการขายข้าวสารจำนวนกว่า 2 แสนบาทได้หายไป พร้อมกับกระเป๋าเงิน
นายเรืองศักดิ์ เล่าว่า ไม่คิดว่าจะได้เงินคืน เนื่องจากว่าลูกน้องได้ทำเงินหาย หลังจากที่ได้ไปส่งข้าวสารให้แก่ลูกค้าแล้วลูกน้องได้ลืมไว้ที่บนหัวรถ จากนั้นลูกน้องก็ได้ขับกลับมาจนเมื่อมาถึงร้านก็พบว่ากระเป๋าเงินได้หายไป จึงได้รับเดินทาไงปแจ้งความโดยไม่คิดว่าจะได้เงินคืนแต่อย่างใด ก็ได้แต่บนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้เจอเงิน
จากนั้นไม่นานก็ได้มีคนโทร.มาหาให้มารับเงินที่หายไป ซึ่งดีใจมาก และไม่คิดว่าจะมีคนดีๆ แบบนี้ในสังคม
หลังรับมอบเงินคืน นายเรืองศักดิ์ ได้ให้สินน้ำใจเป็นเงินจำนวนหนึ่งแก่นายทวี เพื่อขอบคุณในการมีน้ำใจ ซึ่งบรรยากาศพบว่าได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนหลากหลายแขนงเข้าร่วมสังเกตการณ์