ประจวบคีรีขันธ์ - ถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 ผ่านประจวบฯ ทั้งฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ และลงใต้เสียหายหนัก แขวงการทางประจวบฯ ยอมรับไม่ได้ซ่อมใหญ่มากว่า 10 ปี ประกอบกับถนนเส้นนี้มีรถสัญจรมากโดยเฉพาะรถบรรทุก เผยที่ผ่านมา ใช้วิธีการซ่อมเป็นบางจุดที่เสียหายหนักเท่านั้น จึงทำให้ในปัจจุบัน สภาพถนนจึงเสียหาย โดยทางกรมทางหลวงมีแผนที่จะดำเนินการซ่อมใหญ่ โดยจะใช้งบฯ เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่กำลังมีการพิจารณาอยู่
วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 ที่ผ่านมาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งฝั่งลงภาคใต้ และฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากสภาพถนนมีสภาพที่ขรุขระ ผิวการจราจรแตกล่อน บางจุดผิวถนนก็ทรุดตัว ทำให้มีความวิตกกังวลว่าอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งถนนเพชรเกษมดังกล่าวยังมีปริมาณรถที่ใช้เส้นทางหนาแน่น ทั้งรถบรรทุก รถทัวร์ รถตู้ รถยนต์เก๋ง รถยนต์ปิกอัพ ผู้ใช้รถใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมดังกล่าว จึงแจ้งผ่านสื่อมวลชนวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการซ่อมแซม และโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ จะมีปริมาณผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบนายปฏิเวชวุฒิศักย์ สุขขี ผู้อำนวยการแขวงการทางประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวโดยยอมรับว่า ที่ผ่านมาถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 เส้นดังกล่าวไม่ได้ทำการซ่อมใหญ่มานานถึง 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมา ใช้วิธีการซ่อมแซมเฉพาะจุดที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากหากต้องซ่อมใหญ่ต้องใช้งบประมาณที่สูง จึงส่งผลให้ถนนได้รับความเสียหายมาตลอด เกิดการแตกล่อน ผิวถนนขรุขระ นอกจากนั้น ปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดบนถนนสายเพชรเกษมในส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเส้นทางนี้มีรถบรรทุก 10 ล้อ และรถบรรทุก 18 ล้อ วิ่งผ่านเป็นจำนวนมาก
“โดยเบื้องต้น ทางกรมทางหลวงมีแผนที่จะดำเนินการซ่อมแซมใหญ่สำหรับเส้นทางถนนเพชรเกษมสาย 4 ในช่วงของจังหวัดประจวบฯ ซึ่งในการดำเนินการซ่อมใหญ่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับงบประมาณมากน้อยขนาดไหน โดยทางกรมทางหลวงมีการดำเนินการของบประมาณ ซึ่งจะใช้ในส่วนของเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่กำลังดำเนินการอยู่ในสภา”
อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น นายปฏิเวชวุฒิศักย์ กล่าวว่า จะต้องทำการซ่อมแซมในจุดที่เกิดความเสียหายรุนแรงไปก่อน หรือที่เป็นจุดเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ท่ามกลางงบประมาณที่มีอยู่จำกัด ทั้งนี้ จะต้องนำเครื่องจักรเข้ามาดำเนินการแทนที่จะใช้กำลังคนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ผิวถนนมีความแข็งแรงมากที่สุด นอกจากนั้น ยังจะใช้วิธีการฉาบผิวเพื่อลดการลื่นไถล ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทำการซ่อมแซมบางจุดเพื่อให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงสงกรานต์เกิดความสะดวก และปลอดภัย
“ในส่วนทางโค้งที่เราตรวจสอบแล้วเห็นว่าอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ก็จะมีการปรับรูปแบบในขณะนี้ ที่จะมีการซ่อมใหญ่ในอนาคต เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความสะดวก ในขณะเดียวกัน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวนั้น ซึ่งจะมีผู้สัญจรมากกว่าช่วงปกติ ในจุดเสี่ยงต่างๆ ก็จะมีการเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัยเพื่อให้ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น” นายปฏิเวชวุฒิศักย์ กล่าว
วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 ที่ผ่านมาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งฝั่งลงภาคใต้ และฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากสภาพถนนมีสภาพที่ขรุขระ ผิวการจราจรแตกล่อน บางจุดผิวถนนก็ทรุดตัว ทำให้มีความวิตกกังวลว่าอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งถนนเพชรเกษมดังกล่าวยังมีปริมาณรถที่ใช้เส้นทางหนาแน่น ทั้งรถบรรทุก รถทัวร์ รถตู้ รถยนต์เก๋ง รถยนต์ปิกอัพ ผู้ใช้รถใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมดังกล่าว จึงแจ้งผ่านสื่อมวลชนวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการซ่อมแซม และโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ จะมีปริมาณผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบนายปฏิเวชวุฒิศักย์ สุขขี ผู้อำนวยการแขวงการทางประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวโดยยอมรับว่า ที่ผ่านมาถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 เส้นดังกล่าวไม่ได้ทำการซ่อมใหญ่มานานถึง 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมา ใช้วิธีการซ่อมแซมเฉพาะจุดที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากหากต้องซ่อมใหญ่ต้องใช้งบประมาณที่สูง จึงส่งผลให้ถนนได้รับความเสียหายมาตลอด เกิดการแตกล่อน ผิวถนนขรุขระ นอกจากนั้น ปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดบนถนนสายเพชรเกษมในส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเส้นทางนี้มีรถบรรทุก 10 ล้อ และรถบรรทุก 18 ล้อ วิ่งผ่านเป็นจำนวนมาก
“โดยเบื้องต้น ทางกรมทางหลวงมีแผนที่จะดำเนินการซ่อมแซมใหญ่สำหรับเส้นทางถนนเพชรเกษมสาย 4 ในช่วงของจังหวัดประจวบฯ ซึ่งในการดำเนินการซ่อมใหญ่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับงบประมาณมากน้อยขนาดไหน โดยทางกรมทางหลวงมีการดำเนินการของบประมาณ ซึ่งจะใช้ในส่วนของเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่กำลังดำเนินการอยู่ในสภา”
อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น นายปฏิเวชวุฒิศักย์ กล่าวว่า จะต้องทำการซ่อมแซมในจุดที่เกิดความเสียหายรุนแรงไปก่อน หรือที่เป็นจุดเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ท่ามกลางงบประมาณที่มีอยู่จำกัด ทั้งนี้ จะต้องนำเครื่องจักรเข้ามาดำเนินการแทนที่จะใช้กำลังคนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ผิวถนนมีความแข็งแรงมากที่สุด นอกจากนั้น ยังจะใช้วิธีการฉาบผิวเพื่อลดการลื่นไถล ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทำการซ่อมแซมบางจุดเพื่อให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงสงกรานต์เกิดความสะดวก และปลอดภัย
“ในส่วนทางโค้งที่เราตรวจสอบแล้วเห็นว่าอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ก็จะมีการปรับรูปแบบในขณะนี้ ที่จะมีการซ่อมใหญ่ในอนาคต เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความสะดวก ในขณะเดียวกัน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวนั้น ซึ่งจะมีผู้สัญจรมากกว่าช่วงปกติ ในจุดเสี่ยงต่างๆ ก็จะมีการเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัยเพื่อให้ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น” นายปฏิเวชวุฒิศักย์ กล่าว
