ฉะเชิงเทรา - ม็อบสารพัดความเดือดร้อนโผล่พรึ่บเต็มหน้าที่ทำการทำเนียบชั่วคราว ครม.สัญจร นายกฯ ปู เจ้าหน้าที่ถึงผงะเหตุมวลชนเล็ดลอดเข้ามายืนถือป้ายเรียกร้องได้ถึงยังหน้าตัวอาคารที่ประชุม ครม. เกินกว่าความคาดหมาย ก่อนต้อนแกนนำเข้าห้องรับเรื่องร้องทุกข์ ขณะม็อบยังปักหลักไม่ยอมถอย
คลิกเพื่อชมคลิป:
วันนี้ (31 มี.ค.) เวลา 08.30 น. ที่บริเวณอาคารราชนครินทร์ภายใน มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มมวลชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมเกินขอบเขตในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และนครนายก รวมกว่า 100 คน ได้พากันออกมายืนถือป้ายผ้าข้อความต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วยแก้ไขปัญหาผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมยังเรียกร้องให้คืนแหล่งผลิตอาหารตามวิถีดั้งเดิมของคนในพื้นที่กลับคืนมา
ซึ่งมวลชนดังกล่าวมีทั้งมาจากผู้ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะพิษหนองแหน กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้านครเนื่องเขตที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาต กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเขาหินซ้อน พนมสารคาม กลุ่มต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์ จาก จ.นครนายก และกลุ่มต่อต้านการขนถ่ายถ่านหิน อ.บางปะกง โดยที่ชาวบ้านหนองแหนได้ตะโกนร้องบอกต่อเจ้าหน้าที่ที่พยายามเข้ามาควบคุมสถานการณ์ว่า “จะให้เราเสียผู้นำดีๆ ไปอีกสักกี่คน” หลังจากผู้ใหญ่ประจบถูกยิงเสียชีวิต แต่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้
ขณะเดียวกัน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้พยายามที่จะเข้ามาเจรจา และเชิญแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมให้เข้าไปเจรจากันภายในห้องการะเกด ที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากภาคประชาชน ขณะที่ชาวหนองแหนยังได้พากันถือขาดน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดทางวิทยาศาสตร์ที่ทางหน่วยงานราชการส่งทีมบำบัดเข้าไปบำบัดแล้วแต่ยังมีสีดำเทาขุ่นข้นมาให้แก่ นายสุภรณ์ ดู พร้อมบอกว่ายังกินไม่ได้ ซึ่งนายสุภรณ์ ได้ให้ทีมงานที่มาด้วยรับน้ำจำนวนหลายขวดที่ชาวบ้านนำมาส่งกลับไปตรวจสอบใหม่
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เกินกว่าความคาดหมายของเจ้าหน้าที่ที่ไม่สามารถจะทำการสกัดกั้นฝูงชนเหล่านี้ได้ เนื่องจากในช่วงเช้าก่อนเวลา 08.00 น. กำลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนใหญ่ต่างได้มุ่งเน้นในการไปให้ความสำคัญต่อการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธร ภายในพระอุโบสถหลังใหญ่ จึงเป็นจุดอ่อน และช่องโหว่ที่ทำให้บรรดากลุ่มมวลชนที่ได้พยายามเล็ดลอด และปะปนมากับกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มมวลชนอีกกลุ่มที่พากันเดินทางมาจากหลายจังหวัดที่เดินทางมาให้กำลังใจนายกฯ
ขณะเดียวกัน ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ได้เตรียมใช้กำลังกองร้อยควบคุมผู้ชนผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมออก แต่สถานการณ์มีทีท่าว่าอาจจะบานปลาย และอาจเกิดภาพไม่งามต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนงกว่าหลายร้อยชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มาควบคุมสถานการณ์ในที่เกิดเหตุจึงได้สั่งการให้กองร้อยชุดควบคุมฝูงชนถอนกำลังออก และเปลี่ยนมาเป็นการเจรจาจนสถานการณ์คลายตัวลงในที่สุด
