xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านแฉหน่วยงานรัฐแจ้งข้อหาอัปยศ เอาผิดแกนนำต้านบ่อขยะพิษหนองแหน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ชาวหนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ฉีกหน้ากากหน่วยงานรัฐในที่ประชุมอนุกรรมการสิทธิชุมชน หลังถูกหน่วยงานรัฐแจ้งดำเนินคดีแกนนำที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านบ่อขยะพิษ

วันนี้ (14 มี.ค.) นายมนัส สวัสดี อายุ 60 ปีอยู่บ้านเลขที่ 38/2 ม.8 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของที่ดินในเขตพื้นที่ ม.9 ต.เกาะขนุน อ.พนมสาคาม ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำชาวบ้านที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวกับแกนนำอีกหลายคนใน ต.หนองแหน กล่าวเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันศุกร์ที่ 8 มี.ค.56 ที่ผ่านมา ตนเองได้ถูกทาง ร.ต.ท.วีรเทพ จันทรดา พนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เรียกไปแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีสารพิษหรือวัตถุอันตรายไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สาเหตุดังกล่าว เนื่องมาจากเมื่อประมาณกลางปี 2555 ที่ผ่านมา ภายในพื้นที่ดินทำกินในสวนยางพาราของตนเอง ได้มีขบวนการแอบลักลอบนำเอากากสารพิษน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาทิ้งไว้ภายในบ่อน้ำใช้ในสวน ขนาดพื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา บนแปลงที่ดินของตน ซึ่งหลังจากตนทราบจึงได้เดินทางเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อ พ.ต.ท.สมศักดิ์ สังข์ทอง พนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ส.ค.55 พร้อมกับยังได้ออกมาร่วมกันเคลื่อนไหวต่อต้านขยะสารพิษที่ยังคงถูกทยอยนำเข้ามาทิ้งในพื้นที่อีกจำนวนหลายแห่งร่วมกับชาวบ้านรายอื่นๆ ด้วย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเองนั้นเป็นผู้ที่ออกมาร่วมต่อต้านกับชาวบ้านจนตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มมือปืนเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ประจบ เนาวโอภาส ที่ถูกลอบยิงเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ และไม่ใช่ผู้กระทำผิด รวมถึงยังเป็นผู้เสียหายที่ถูกขบวนการแอบทิ้งสารเคมีนำเอาสารขยะพิษมาทิ้งใส่ที่ทำกินอีกด้วย

นายมนัส กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นยังได้ทำให้สวนมะลิที่ปลูกสลับอยู่ในสวนยางพารา บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ จำนวนกว่า 5 พันต้น เสียหายเนื่องจากครั้งแรกไม่ทราบว่าสระน้ำนั้นมีคนแอบนำเอาน้ำที่มีสารพิษมาทิ้งใส่ไว้ เมื่อนำไปรดต้นไม้ในสวนทำให้ได้รับความเสียหายดังกล่าว

ที่ผ่านมา ตนเคยเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนเอาผิดต่อผู้ที่ลักลอบนำเอากากของเสียมาทิ้งไว้ก่อนแล้ว แต่กลับมาถูกแจ้งข้อกล่าวหา และถูกดำเนินคดีเสียเองจนกลายเป็นผู้ต้องหา ทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องดังกล่าวมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ได้เดินทางลงมาในพื้นที่แล้ว เมื่อวันที่ 12 มี.ค.56 ที่ผ่านมา โดยทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งมีนายจะเด็ด ชาตะรัตน์ หัวหน้าฝ่ายนโยบาย และแผน ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ทางอุตสาหกรรมจังหวัดและกรมโรงงานนั้น ทำได้เพียงให้ทางวิศวกรของสำนักงานนำหลักฐานต่างๆ พร้อมผลตรวจสารพิษมาให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ทางตำรวจสืบสวนดำเนินคดีหาตัวผู้กระทำผิด ซึ่งจะเป็นใครนั้นไม่ใช่หน้าที่ของอุตสาหกรรม และกรมโรงงาน โดยการดำเนินคดีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของทางตำรวจ

ด้าน พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ เขมะชิต รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้เดินทางมาเข้าที่ประชุมแทน พล.ต.ต.สมบัติ บัวเรือง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ชี้แจงในที่ประชุมว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทางตำรวจได้ดำเนินการไปตามหน้าที่ เมื่อมีเจ้าพนักงานของรัฐเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ต้องทำเพราะเมื่อผู้ต้องหามาปรากฏตัวแสดงตนต่อหน้าแล้วนั้น ต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า เขาถูกกล่าวหาว่าอะไรซึ่งหากไม่แจ้งให้ทราบตำรวจก็มีความผิด และหลังจากแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบแล้ว ได้ปล่อยตัวไปชั่วคราวโดยที่ไม่ได้กักขัง หรือควบคุมตัวไว้แต่อย่างใด

กรณีดังกล่าวทางคณะอนุกรรมการสิทธิชุมชน ได้เสนอให้นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เสนอในที่ประชุมต่อคณะกรรมการแก้ไขปัญหาขยะพิษดังกล่าวลงความเห็นเป็นมติที่ประชุม ไม่ให้ทางตำรวจสั่งฟ้องคดีเนื่องจากผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ที่กระทำผิดตัวจริง
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เข้าร่วมชี้แจงถึงสาเหตุขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น