น่าน - ชาวบ้านทุ่งช้างยังต้องปิดบ้านหนีสารเคมี หลังเกิดอุบัติเหตุรถพุ่งชนร้านกาแฟ สถานที่เก็บสารเคมีด้านการเกษตร ทำสารเคมีฟุ้งกระจาย ผ่านมากว่า 10 วัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิกเฉย จนผักสวนครัวใบไหม้แห้งตายแล้ว ด้านผู้ว่าฯ สั่ง นอภ.ตรวจสอบแล้ว
วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านเฟยลุง หมู่ 9 ต.เฟยลุง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน กว่า 10 หลังคาเรือน ยังต้องปิดบ้านหนีและไปอาศัยกับญาติพี่น้องเนื่องจากเกรงผลกระทบจากสารเคมีอันตรายที่เกิดจากอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งเข้าชนร้านกาแฟ ที่ใช้เป็นที่เก็บสารเคมีด้านการเกษตร ริมถนนอรุณเดชจรัสหมู่ 9 ต.เฟยลุง เขตเทศบาลตำบลทุ่งช้าง จนได้รับความเสียหาย มีสารเคมีอันตรายฟุ้งกระจายไปทั่วในรัศมี 100 เมตร ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานราชการเข้ามาแก้ไขอย่างถูกวิธี ล่าสุดมีชาวบ้านได้รับผลกระทบด้านกลิ่นที่สูดดมเข้าไป และพืชผักสวนครัวเหี่ยวแห้งตาย
นางวันดี บุญประเสริฐ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ถนนอรุณเดชจรัส เขตเทศบาลตำบลทุ่งช้าง ซึ่งอยู่ในจุดฟุ้งกระจายของสารเคมี กล่าวว่า ไม่มีใครให้ความสนใจเข้ามาแก้ปัญหา จนชาวบ้านร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ทางราชการเข้ามาใช้น้ำล้างและบางจุดใช้ดินกลบ ซึ่งชาวบ้านมองว่ายิ่งทำให้สารเคมีตกค้างในดินและแหล่งน้ำต่อไปอีก ตอนนี้ชาวบ้านหลายครอบครัวต้องปิดบ้านหนีปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้านนายชุมพร แสงมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน หลังทราบเรื่องได้สั่งการให้นายเกียรติศักดิ์ ป้อมทองคำ นายอำเภอทุ่งช้าง พร้อมสาธารณสุขอำเภอเข้าตรวจสอบ และเร่งช่วยเหลือชาวบ้าน โดยให้เจ้าหน้าที่ได้นำสารเคมีออกไป และเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน พร้อมประสานกรมควบคุมมลพิษเข้ามาตรวจสอบแล้ว และให้ติดตามความเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการตรวจหาสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย ที่สำคัญให้เร่งสร้างความเข้าใจและเยียวยาสภาพจิตใจชาวบ้าน ขณะเดียวกันก็ให้ตรวจสอบการจัดเก็บสารเคมีตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัด ว่าเป็นไปตามมาตรฐานถูกต้องหรือไม่ด้วย
“ยืนยันว่าสารเคมีดังกล่าวจะสลายไปภายใน 15 วัน ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพหากไม่สัมผัสโดยตรง หรือดื่มกินเข้าไป”