ลำปาง - กลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจจากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์แม่เมาะครวญ หมอกควันในอากาศพุ่งสูงยิ่งทำให้ใช้ชีวิตลำบาก ต้องใช้ถังออกซิเจน พ่น-กินยาขยายหลอดลมตลอดเวลา ทำค่าใช้จ่ายพุ่ง หลายครอบครัวยากจน ต้องจ้างคนไปยืม อบต.มาใช้แทน
วันนี้ (25 มี.ค.) สภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือรวมถึงจ.ลำปาง ยังปกคลุมไปด้วยหมอกควันขนาดเล็กจำนวนมาก และเกินค่ามาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด โดยล่าสุดกรมควบคุมมลพิษรายงานสภาพอากาศโดยรวมในวันนี้ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พื้นที่ จ.ลำปาง ณ สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง มีค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน อยู่ที่ 251ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านสบป้าด อ.แม่เมาะ 244 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านท่าสี อ.แม่เมาะ 351 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. การประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ อ.แม่เมาะ 246 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. ถือว่า อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้ง 4 แห่ง แต่ที่สูงสุดอยู่ใน อ.แม่เมาะ
นายจันทร์ เครือสืบ อายุ 78 ปี นายเชิด เครือสืบ อายุ 68 ปี ชาวบ้านทุ่งเลางาม หมู่ 6 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้ป่วยทางเดินหายใจ และเป็นหนึ่งในจำนวน 142 ราย ที่แพทย์ระบุว่าได้รับผลกระทบจากสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์จนกลายเป็นผู้ป่วยทางเดินหายใจ หอบหืด เรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน กล่าวด้วยอาการเหนื่อยหอบว่า ช่วงนี้อากาศมีแต่หมอกควันเพิ่มขึ้น ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คือ ต่อสายออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจตลอดเนื่องจากหายใจไม่ค่อยออก และเหนื่อยมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องใช้เครื่องพ่นยา และกินยาขยายหลอดลมทุกวัน
ซึ่งขณะที่พูดคุยกับผู้สื่อข่าว สังเกตได้ว่านายจันทร์มีอาการหอบ และต้องสูดลมหายใจยาวๆ ตลอดเวลา โดยในหมู่บ้านแห่งนี้ มีผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประมาณ 10 หลังคาเรือน ทุกคนจำเป็นต้องใช้ถังออกซิเจนขนาดใหญ่ประจำไว้ที่บ้าน แต่เนื่องจากถังมีราคาแพงไม่สามารถซื้อเป็นของตัวเองได้ ต้องยืมมาจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางหลังต้องว่าจ้างให้คนไปยืมและไปเติมออกซิเจน เสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 50-100 บาทตามระยะทาง แต่ละถังจะใช้ได้ 4-10 วัน เนื่องจากหมอกควันที่ปกคลุม ต้องใช้เกือบทั้งวัน ทำให้ออกซิเจนหมดเร็ว จึงอยากฝากถึงผู้เกี่ยวข้องช่วยหางบประมาณจัดซื้อถังออกซิเจนไว้ประจำบ้านให้กับผู้ป่วยแต่ละหลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้วย