พะเยา - องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดอกคำใต้ ออกโรงเรียกร้องให้ทหาร ตร. ตชด. ร่วมปกป้องผืนป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กว่า 700 ไร่ในลุ่มน้ำชั้น 1 A ชี้ถูกชาวเขา-นายทุน-จนท.รัฐ บุกรุกหนัก
วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชัย อุ่มอ่อนศรี รองนายกเทศมนตรีตำบลหนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ในเขตสงวนแห่งชาติป่าแม่ร่องขุยป่าแม่ต๋ำ พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น1 เอ บริเวณบ้านร่วมจิต หมู่ 9 ต.หนองหล่ม โดยกล่าวว่าป่าผืนนี้ได้จัดทำเป็นป่าโครงการเฉลิมพระเกียรติประมาณปี 2549 จากนั้นได้ฟื้นฟูป่าขึ้นมาใหม่ด้วยการปลูกต้นไม้ และสวนป่าสัก เพื่อเป็นแหล่งต้นน้ำโครงการพระราชดำริอ่างร่องสัก ในเขต ต.หนองหล่ม และอ่างแม่ต๋ำ ต.แม่กา อ.เมือง
“แต่เมื่อเร็วๆ นี้มีเจ้าหน้าที่รัฐและนายทุนเข้าไปบุกรุก ทำให้ชาวเขาที่เคยครอบครองที่ดินบริเวณนี้ไม่พอใจ กลับมายึดผืนป่าเฉลิมพระเกียรติอีกรอบด้วยการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเอาที่ดินที่เคยทำกินคืน ซึ่งเทศบาลได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาป่าในจังหวัดมาดูพื้นที่แล้วแต่ก็เงียบหายไป ส่งผลให้การบุกรุกป่ากระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ”
นายวิชัยกล่าวว่า หากไม่ช่วยกันปกป้องป่าผืนนี้ไว้ อนาคตลูกหลานจะไม่มีน้ำใช้ เนื่องจากป่าผืนนี้เป็นป่าต้นน้ำชั้น 1 เอ และเป็นต้นน้ำของลำน้ำร่องช้าง อ่างร่องสัก และอ่างแม่ต๋ำ ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแหล่งน้ำสำคัญหล่อเลี้ยงชีวิตของชาว อ.ดอกคำใต้ ต.แม่กา ต.จำป่าหวาย อ.เมือง และไหลลงกว๊านพะเยา ซึ่งเทศบาลคงไม่สามารถปกป้องเอาไว้ได้โดยลำพัง
“โดยส่วนตัวแล้วอยากให้ทหาร ตำรวจท้องที่ ตำรวจตระเวนชายแดนเข้ามาปกป้อง เพราะเคยประสานทั้งฝ่ายปกครองและป่าไม้เรื่องก็เงียบหายไป และอยากจะฝากไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยลงมาดูป่าเฉลิมพระเกียรติแห่งนี้ด้วย เพราะกำลังถูกนายทุนต่างถิ่น และนายทุนจากภาคใต้เข้ามาบุกรุกปลูกยางพารา”
ด้านนายสิงห์ เผ่ากันทะ กำนันตำบลหนองหล่ม กล่าวว่า เดิมชาวบ้านแถวนี้อยู่เข้าไปในป่าลึกกว่า 2 กิโลเมตร ชื่อบ้านแม่พุง แล้วถูกอพยพออกมาอยู่ที่บ้านร่วมจิต ป่าตรงนี้ก็ขอคืนมาจากชาวบ้านกลุ่มนี้ แรกๆ เขาก็จะเลิกบุกรุกอยู่แล้ว พอมีเจ้าหน้าที่และใครต่อใครเข้าไปบุกรุกอีก พวกเขาก็เลยอยากได้ที่ของเขาคืน
“หากจะรักษาป่าผืนนี้ไว้ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นหลัก แต่เคยไปคุยกับระดับหัวหน้ามาครั้งหนึ่งแล้ว ก็ไม่เห็นว่าอะไร”
ขณะที่นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า ไม่เคยทราบข้อมูลมาก่อน แต่จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบพื้นที่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง และตำรวจไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หากว่าพบมีการบุกรุกทำลายป่าก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดต่อไป