กาญจนบุรี - กมธ.ทหาร ลงพื้นที่กาญจน์ แก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนของทหาร กับวัดนางพิมพ์ จากการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน พ.ศ.2481
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ห้องประชุมแควใหญ่ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างหน่วยทหารกับวัดกาญจนบุรีเก่า (วัดนางพิมพ์) จากการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2478 พร้อมด้วย นายกาศพล แก้วประพาฬรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี คณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
จากรณีพื้นที่ทับซ้อนระหว่างหน่วยทหารกับวัดกาญจนบุรีเก่า (วัดนางพิมพ์) จากการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินในท้องที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอวังขนาย อำเภอพนมทวน และอำเภอวังกะ จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ.2481 และอาศัยมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2478 คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร จึงลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อรับฟังปัญหาดังกล่าว และร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางการแก้ไข
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้แก่วัดกาญจนบุรีเก่า (วัดนางพิมพ์) ขอให้ทางจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเจ้าภาพในการติดตามการดำเนินการของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีในการหารือกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาญจนบุรี ในเรื่องที่ดินที่เกี่ยวข้องกับทางทหาร และให้แจ้งความคืบหน้าให้คณะกรรมาธิการการทหารทราบเป็นระยะ
ต่อจากนั้น ในภาคบ่ายคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปยังวัดกาญจนบุรีเก่า (วัดนางพิมพ์) ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อร่วมหารือกับพระราชรัตนวิมล เจ้าอาวาสวัดกาญจนบุรีเก่า และเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี โดยพล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งมติที่ประชุมก่อนที่จะเดินทางมายังวัดว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการออกเอกสารสิทธิที่ดินให้แก่ทางวัด
ทางด้านพระราชรัตนวิมล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการขอหลักฐานที่ดินของวัด แต่เนื่องจากวัดเป็นวัดโบราณที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2360 จึงยังไม่มีหลักฐานที่ดิน สำหรับการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ อาตมาขอขอบคุณคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ดินของวัด เป็นการร่วมกันอนุรักษ์วัดโบราณที่อยู่ในพื้นที่ประวัติศาสตร์ของประเทศ