จันทบุรี - เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ จังหวัดจันทบุรี ใน 3 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบไม่สามารถปลูกข้าวนาปรังได้หลังมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องปล่อยให้พื้นนารกร้าง
นายสุรศักดิ์ นิยมวาณิชย์ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ในปัจจุบันในพื้นที่หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 11 และหมู่ที่ 13 ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นเเหล่งปลูกข้าวรายใหญ่ต้องประสบปัญหาไม่สามารถที่จะปลูกข้าวนาปรังในปีนี้ได้ เนื่องจากในพื้นที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ประกอบกับทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ หยุดการทำนาปรังในระยะนี้ออกไปก่อน
เนื่องจากการทำนาปรังจะต้องใช้น้ำมากในการปลูกเเต่ละครั้ง ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องปล่อยให้พื้นนารกร้างว่างเปล่าลงไป และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวก็ต้องขาดรายได้ในช่วงนี้ไป โดยในปีนี้ภัยแล้งวิกฤตหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา และเเล้งนานจนทางจังหวัดต้องประกาศให้ 8 อำเภอ จาก 10 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง และในหลายพื้นที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ ทั้งน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งหลายหน่วยงานก็ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้าน และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งทุกวันไม่ว่าจะเป็นการนำรถบรรทุกน้ำวิ่งเเจกจ่ายน้ำ การขุดบ่อน้ำตื้น การขุดบ่อบาดาล การทำฝายชะลอน้ำ หรือการทำฝนหลวงช่วยเหลือที่สามารถทำได้
นายสุรศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันพื้นนาที่ว่างเปล่าตรงนี้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวก็ไม่ได้มีการนำพืชผักชนิดอื่นมาปลูกทดแทนเเต่อย่างใด เพราะปริมาณน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่ก็ไม่เพียงพอ หากปลูกไปก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลผลิตคุ้มทุนหรือไม่ รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะปลูก ทั้งนี้ หากเข้าสู่ฤดูฝนเกษตรกรผู้ข้าวในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ ก็อาจจะกลับมาปลูกข้าวนาปีอีกครั้งในรอบใหม่ต่อไปอีกด้วย
นายสุรศักดิ์ นิยมวาณิชย์ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ในปัจจุบันในพื้นที่หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 11 และหมู่ที่ 13 ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นเเหล่งปลูกข้าวรายใหญ่ต้องประสบปัญหาไม่สามารถที่จะปลูกข้าวนาปรังในปีนี้ได้ เนื่องจากในพื้นที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ประกอบกับทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ หยุดการทำนาปรังในระยะนี้ออกไปก่อน
เนื่องจากการทำนาปรังจะต้องใช้น้ำมากในการปลูกเเต่ละครั้ง ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องปล่อยให้พื้นนารกร้างว่างเปล่าลงไป และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวก็ต้องขาดรายได้ในช่วงนี้ไป โดยในปีนี้ภัยแล้งวิกฤตหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา และเเล้งนานจนทางจังหวัดต้องประกาศให้ 8 อำเภอ จาก 10 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง และในหลายพื้นที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ ทั้งน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งหลายหน่วยงานก็ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้าน และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งทุกวันไม่ว่าจะเป็นการนำรถบรรทุกน้ำวิ่งเเจกจ่ายน้ำ การขุดบ่อน้ำตื้น การขุดบ่อบาดาล การทำฝายชะลอน้ำ หรือการทำฝนหลวงช่วยเหลือที่สามารถทำได้
นายสุรศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันพื้นนาที่ว่างเปล่าตรงนี้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวก็ไม่ได้มีการนำพืชผักชนิดอื่นมาปลูกทดแทนเเต่อย่างใด เพราะปริมาณน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่ก็ไม่เพียงพอ หากปลูกไปก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลผลิตคุ้มทุนหรือไม่ รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะปลูก ทั้งนี้ หากเข้าสู่ฤดูฝนเกษตรกรผู้ข้าวในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ ก็อาจจะกลับมาปลูกข้าวนาปีอีกครั้งในรอบใหม่ต่อไปอีกด้วย