กาญจนบุรี - ป่าไม้กาญจนบุรีสันธิกำลังตำรวจ ปทส. ตชด.136 และ กอ.รมน.บุกจับกุม 4 ผู้ต้องหารุกที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ อำเภอไทรโยค พร้อมยึดรถไถ 1 คัน ตรวจสอบพบเป็นพื้นที่เคยตรวจยึดเมื่อปี 55 เตรียมทำโครงการ 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินี
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (20 มี.ค.) นายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้รับการร้องเรียนจากผู้หวังดีว่า มีการลักลอบก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า และตัดไม้ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย พื้นที่บ้านทุ่งมะเซอย่อ หมู่ 4 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงได้ประสานให้นายบุญชิต ครชาตรี หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) นำกำลังเข้าไปตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวเข้า
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบคนงานกำลังขับรถไถปรับพื้นที่รวมทั้งกำลังตัดโค่นต้นไม้ และเผาป่า โดยเห็นกลุ่มควันไฟมาแต่ไกล เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันเข้าจับกุม และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ประกอบด้วย นายวินัย ตุ้มน้อย อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/1 หมู่ 1 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นางสมบูรณ์ ศรีเหรา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 4 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยทั้ง 2 เป็นสามีภรรยากันและเป็นเจ้าของรถไถที่ใช้สำหรับปรับพื้นที่ นายปัญญา ปิ่นแก้ว อายุ 30 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ หมู่ 4 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ทำหน้าที่ขับรถไถสำหรับปรับพื้นที่ และนายวสันต์ เชื้อฮ้อ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ผู้ดูแลพื้นที่
จากการตรวจสอบโดยรอบพบตอไม้ที่ถูกตัดไปแล้ว 8 ตอ ส่วนลำต้นได้ถูกขนย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้ว และยังไม่ได้มีการขนย้ายอีก 2 ต้น โดยไม้ที่ตรวจยึดมีปริมาตรรวมกัน 3.327 ลูกบาศก์เมตร ค่าภาคหลวง 164.26 บาท รัฐเสียหายเป็นเงิน 19,962 บาท พร้อมตรวจยึดรถไถสีส้ม ยีห้อคูโบต้า ที่ใช้สำหรับปรับพื้นที่เอาไว้ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค
ส่วนพื้นที่ที่ถูกบุกรุกวัดพิกัดได้ จำนวน 13-3-72 ไร่ และจากการวัดพิกัดพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเจ้าพนักงานป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยตรวจยึดเอาไว้แล้วเมื่อวันที่ 23 พ.ย.55 และได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาไว้ที่ สภ.ไทรโยค ตามบันทึกประจำวัน ข้อ 7 เวลา 16.30 น. คดีอาญาที่ 557/2555 ลงวันที่ 23 พ.ย.55 โดยพื้นที่ที่ตรวจยึดมีประมาณกว่า 200 ไร่ และเจ้าหน้าที่ได้เสนอเรื่องถึงนายอำเภอไทรโยค เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวจัดทำโครงการ 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินี
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีในข้อหากระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11, 69, 54, 42, ตรี 64 ทวิ ฐานร่วมกันทำไม้ ร่วมกันทำอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง โดยไม่มีรอยตีตราค่าภาคหลวง ช่วยกันก่อนสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการทำลายป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหน้าที่และเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14, 31 ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ โดยนางสมบูรณ์ ศรีเหรา เจ้าของรถไถ ให้การว่า ตนรู้จักกับนายสมบัติ (ไม่ทราบนามสกุล) เป็นคนอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และบอกว่าพื้นที่ดังกล่าวนายสมบัติ เป็นเจ้าของ และอนุญาตให้ตนกับนายวินัย สามีเข้ามาทำมากินได้ ตนกับสามีจึงได้นำรถไถมาปรับพื้นที่เพื่อปลูกมันสำปะหลัง โดยจ้างให้นายปัญญา มาช่วยขับรถไถปรับพื้นที่ โดยได้ค่าตอบแทนไร่ละ 40 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ อีกทั้งจะทำการสืบสวนเพื่อขยายผลหากลุ่มนายทุนที่จ้างให้ผู้ต้องหาเข้ามาบุกรุกที่ดังกล่าวต่อไป
