ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นอภ.สะเดา นำทีมบุกจับกุมผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ พบพื้นที่ป่าเขาน้ำค้างถูกแผ้วถาง และเผาทำลายกว่า 50 ไร่ พร้อมรวบมอดไม้คาหนังคาเขาอีก 2 ราย เบื้องต้น ปฏิเสธเป็นเจ้าของไม้ของกลาง อ้างเข้ามาตัดกิ่งไม้นำไปขายเป็นเชื้อเพลิงแก่โรงงาน
นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอสะเดา พร้อมด้วย นายอนิรุทร บัวอ่อน ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายมานิตย์ บริพันธ์ ปลัดฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ อส. สนธิกำลังร่วมกับทหารร้อย ร.5021 และเจ้าหน้าที่อุทยานเขาน้ำค้างป่าไม้ที่ สข.4 กว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง บ้านบางแห้ง ม.11 ต.ปริก อ.สะเดา จ. สงขลา หลังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า
จากการตรวจสอบพื้นที่พบว่า เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีลักษณะเป็นเนินเขา พื้นที่ป่าไม้ถูกแผ้วถาง และเผาทำลายกว่า 50 ไร่ รวมทั้งมีต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกโค่นไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีร่องรอยแปรรูปไม้มานานนับเดือน ส่วนใหญ่ถูกตัดโค่น ได้แก่ ต้นสยาแดง, กะบาก และขานาง และมีไม้ถูกตัดเป็นท่อนๆ แต่ยังไม่ได้แปรรูปอีกจำนวนหลายสิบท่อน
ขณะเดียวกัน พบผู้ลักลอบตัดไม้ จำนวน 2 คน จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน ทราบชื่อคือ นายดา รัตนะประภา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.11 ต.ปริก อ.สะเดา และนายประยูร ไชยชนะ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.11 ต.ปริก อ.สะเดา พร้อมยึดอุปกรณ์ในการตัดไม้เป็นเครื่องเลื่อยยนต์ 1 เครื่อง มีดพร้า 2 เล่ม น้ำมันเบนซิน 2 แกลลอน และยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผก 7266 สงขลา และรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน บจ 9398 สงขลา
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การอ้างว่า ไม่ทราบว่าไม้ที่พบเป็นท่อนๆ และแปรรูปแล้วเป็นของใคร พวกตนแค่เข้าไปตัดปลายไม้ และกิ่งไม้เพื่อนำไปขายให้แก่โรงงานทำถุงมือแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อรับซื้อไปเป็นเชื้อเพลิงในราคากิโลกรัมละ 85 สตางค์ โดยมีรายได้จากการขายเศษไม้ครั้งละ 2-3 พันบาท ไม่ได้มีใครว่าจ้างให้เข้าไปตัดไม้แต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวไปสอบสวนขยายผลเพื่อสาวไปให้ถึงตัวนายทุนเบื้องหลัง และจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
