เชียงราย - หมอกควันเชียงรายทั้งในเขต อ.เมือง และชายแดนแม่สาย พุ่งเกินมาตรฐานแล้ว
วันนี้ (20 มี.ค.) กรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดคุณภาพอากาศโดยใช้เครื่องตรวจวัดที่ตั้งอยู่ใน 2 จุด คือ ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนได้ 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) สูงเกินมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดเอาไว้ที่ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. หลังจากวันที่ผ่านมาวัดได้เพียง 119 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.
ส่วนที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สาย ชายแดนไทย-พม่า ซึ่งตามปกติจะมีค่าอากาศที่ย่ำแย่กว่าเขต อ.เมือง แต่ปรากฏว่าในวันนี้วัดได้ 123 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. หรือเกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัยเพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมถือว่าสภาพอากาศทั่วไปยังไม่มีหมอกควันปกคลุมหนาทึบมากนัก โดยอาจเกิดจากการที่เป็นช่วงต้นของการเกิดปรากฎการณ์นี้ และยังคงมีลมพัดเบาๆ ในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นยังอยู่ในเกณฑ์ดีอยู่ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าหากปริมาณฝุ่นละอองในอากาศยังคงเพิ่มขึ้นติดต่อกันอย่างต่อเนื่องจะทำให้ทัศนวิสัยย่ำแย่เหมือนปีที่ผ่านมาได้
ด้านนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีปริมาณฝุ่นละอองที่เริ่มเกินกว่าค่ามาตรฐาน ดังนั้นจังหวัดจึงได้ใช้มาตรการลดแหล่งกำเนิดของฝุ่นละออง และลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์หมอกควัน และกำชับกวดขันเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการป้องกัน ควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่ง โดยหันไปส่งเสริมให้เกษตรกรใช้วิธีการไถกลบแทน