ผู้ผลิตไส้กรอกโคราชโวย “ซากลูกแมว” ไม่ใช่ของโรงงาน โร่แจ้งจับผู้กล่าวหา

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เจ้าของโรงงานไส้กรอก อ.ชุมพวง โวยไส้กรอกซากลูกแมวพบที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่ได้ผลิตจากโรงงานของตนแน่ มั่นใจกรรมวิธีการผลิตถูกหลักสุขอนามัย และเนื้อหมูผ่านการบดถึง 2 รอบ เป็นไปไม่ได้มีซากแมวยัดอยู่ในไส้กรอก ล่าสุดแจ้งจับผู้กล่าวหาพร้อมเรียกค่าเสียหาย เหตุทำยอดขายฮวบ สธ.ตรวจพิสูจน์ ย้ำขั้นตอนการผลิตถูกต้อง

วันนี้ (20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้าน ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พบซากแมวในไส้กรอกที่ซื้อมาทอดเพื่อรับประทาน ก่อนนำมากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภจนกลายเป็นข่าวฮือฮา และระบุว่าเป็นไส้กรอกผลิตจากโรงงานใน อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมานั้น

ล่าสุด นายอนันต์ โกนสันเทียะ สาธารณสุขอำเภอชุมพวง จ.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังบ้านของนายพงษ์พัฒน์ ไชยกิตติ อายุ 50 ปี เลขที่ 9 หมู่ 2 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง เจ้าของโรงงานผลิตไส้กรอกที่ถูกกล่าวหาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยนายพงษ์พัฒน์ได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์กรรมวิธีการผลิตทุกขั้นตอน

นายอนันต์กล่าวว่า จากการตรวจสอบกระบวนการผลิตไส้กรอกของนายพงษ์พัฒน์ พบว่าถูกสุขลักษณะทุกอย่าง ไม่น่าจะมีสิ่งปลอมปนขนาดใหญ่เท่าซากลูกแมวเข้าไปปะปนอยู่ในไส้กรอกได้ เพราะทุกขั้นตอนต้องผ่านการบดจนละเอียด และไส้กรอกก็มีขนาดเล็ก ซากลูกแมวที่ปรากฏในข่าวค่อนข้างตัวใหญ่ ซึ่งขั้นตอนการยัดไส้กรอกก็ใช้นิ้วมือบีบตลอดเวลา หากมีซากลูกแมวต้องพบตั้งแต่ขั้นตอนการทำแล้ว

“เชื่อว่าไส้กรอกที่อ้างว่ามีซากลูกแมว ไม่น่ามาจากแหล่งผลิตของนายพงษ์พัฒน์แน่นอน อยากให้สาธารณสุขอำเภอสตึกนำซากลูกแมวมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพื่อความกระจ่างของทุกฝ่าย”นายอนันต์กล่าว

ด้านนายพงษ์พัฒน์กล่าวว่า ไส้กรอกของตนมีขนาดแค่ 2 นิ้วเท่านั้น ซากแมวเข้าไปอยู่ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ไส้กรอกขนาดใหญ่ที่เรียกว่าหม่ำ และทุกขั้นตอนการผลิตตนดูแลอย่างดี เป็นไปไม่ได้ที่จะมีซากลูกแมวเป็นตัว เพราะเนื้อหมูทุกชิ้นต้องผ่านเครื่องบดถึง 2 รอบ หากมีซากแมวก็จะต้องถูกบดจนเละ ไม่อยู่ในสภาพเป็นแมวทั้งตัวได้

“จากการเป็นข่าวออกไป ส่งผลให้ธุรกิจของผมเสียหาย ยอดขายลดลงอย่างมาก จากเดิมขายวันละ 2,500 ข้อ เหลือแค่ 1,000-1,500 ข้อเท่านั้น ผมผลิตไส้กรอกมานานกว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ลูกค้าเชื่อถือและไว้ใจกันหมด แต่ตอนนี้ธุรกิจผมแย่มาก ยอดขายตกกว่าครึ่ง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำซากแมวไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพราะผมมั่นใจว่าไม่ใช่ไส้กรอกที่มาจากแหล่งผลิตของผมแน่นอน”นายพงษ์พัฒน์ กล่าว

นายพงษ์พัฒน์กล่าวอีกว่า ได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สตึก เพื่อเอาผิดต่อผู้กล่าวหาแล้ว และจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งความต่อ สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมาไว้ด้วย