ถ้าจะบอกว่า หนองเขียว-เมืองงอย จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่และเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของวังเวียงก็สามารถว่าได้เช่นนั้น เพราะเชื่อเถอะว่าแหล่งท่องเที่ยวริมน้ำขนาบด้วยผาหินสูงชันด้วยธรรมชาติบริสุทธิ์ที่ Lonely Planet กล่าวถึงแบบนี้พริบตาเดียวยอดผู้มาเยือนจะไต่ขึ้นชั่วพริบตา
เนื่องเพราะว่าหนองเขียว-เมืองงอย เป็นเมืองเล็กๆ 2 เมืองต่อเชื่อมกันตั้งอยู่กลางหุบเขาหินสวยงามริมฝั่งแม่น้ำอูอันเป็นแม่น้ำใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศลาว ห่างจากหลวงพระบางระยะทางถนนประมาณ 150 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จุดเด่นของหนองเขียว-เมืองงอยอยู่ที่นักเดินทางสามารถเลือกเดินทางกลับโดยเรือล่องตามน้ำอูเชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง ที่บ้านปากอูอันเป็นที่ตั้งของถ้ำติ่งแล้วล่องโขงสู่หลวงพระบางต่อใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง กล่าวคือมาทางบกก็ได้ทางเรือก็สะดวก
รอบเดียวได้ครบทั้ง ภูผาป่าไม้ ชนบท แม่น้ำสาขา และล่องโขง !
อันที่จริง หนองเขียว กับ เมืองงอย เป็นคนละสถานที่กันแต่ก็มีความสัมพันธ์กันเสมือนเมืองคู่แฝด เมืองอยเป็นเมืองเก่าแก่ริมน้ำอูตอนกลาง ขึ้นอยู่กับหลวงพระบางต่อมาเมื่อมีการตัดถนนจากหลวงพระบางเลียบลำน้ำอูมาถึงทางการได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำบริเวณหนองเขียว เพื่อจะมุ่งเหนือต่อไปยังแขวงซำเหนือ บริเวณที่ตั้งของสะพานจึงกลายเป็นชุมชนใหม่ มีชาวบ้านจากเมืองงอยย้ายถิ่นไปตั้งบ้านเรือนบริเวณหนองเขียวและเมื่อการท่องเที่ยวมาถึงหนองเขียวจึงกลายเป็นบ้านใหญ่ที่คึกคักหลากสีสันกว่าเมืองงอยในที่สุด
การเชื่อมโยงระหว่างหนองเขียวกับเมืองงอยก็ยังมีต่อเนื่องสม่ำเสมอมีเรือโดยสารประจำทางค่าเรือ 25,000 กีบหรือประมาณ 100 บาท/คน วันละ 3 เที่ยว และยังมีเรือให้เหมาลำตลอดวันด้วยเวลาการเดินทางสั้นๆ ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางแบบเพลิดเพลินจำเริญใจไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง ระหว่างทางอาจจะพบนักท่องเที่ยวสวมบิกินี่-ชุดว่ายน้ำตามหาดรายทางหรือพายเรือแคนู เพราะหนองเขียวกำลังพัฒนาเป็นศูนย์ของการท่องเที่ยวแบบผจญภัย ปีนผา แคนู คยัค ฯลฯ ไปแล้วในตลาดมีกิจการทัวร์ที่เปิดให้บริการการท่องเที่ยวกลางแจ้งลักษณะดังกล่าวหลายราย
ทั้งหนองเขียว และ เมืองงอย ต่างก็มีที่พักแรมสะอาด ราคาไม่แพงมากระดับ 250-500 บาท ต่างก็มีดีคนละแบบ หนองเขียวอยู่ท่ามกลางภูเขาหินชะโงกง้ำให้บรรยากาศเหมือนกับเมืองกาญจนบุรีหรือแถวๆ กระบี่ พังงา ส่วนเมืองงอยเป็นบ้านชาวลาวลุ่มดั้งเดิมที่บริสุทธิ์น่ารักหลังอิงกับภูเขาสูงสามารถเดินเท้าท่องเที่ยวชมชนบทหรือถ้ำได้ เวลาเช้าๆ ทั้งหนองเขียว-เมืองงอยต่างก็มีหมอกหนาเคลียยอดเขา แต่หากจะเทียบกัน หนองเขียวเป็นชุมชนใหญ่และเจริญกว่าเพราะเป็นชุมทางรถยนต์ขณะที่เมืองงอยไม่มีทางรถต้องใช้เรือในการเข้าถึง แม้กระทั่งการสัญจรภายในตัวเมืองกับแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงยังต้องใช้รถไถนาพ่วงกระบะเป็นพาหนะหลัก
หากย้อนไปประมาณ 5 ปีก่อนเมืองงอยยังไม่มีเรือนพักแรม ส่วนหนองเขียวยังเป็นชุมชนเล็กๆ มีเรือนพักแค่ 2-3 แห่งและไม่สะอาดนัก ชั่วเวลาแค่ไม่กี่ปีผ่านไปหนองเขียวมีถนนลาดยางไม่เป็นดินแดงปนหินเหมือนก่อน มีเรือนพักใหม่ๆผุดขึ้นลานตา มีบริการพื้นฐานทุกอย่างไม่ว่าเอทีเอ็ม(บัตรเครดิตรูดเงิน) ไปรษณีย์ รถเรือโดยสารประจำทาง ไม่เฉพาะแค่ไปหลวงพระบางหรือเวียงจันทน์เท่านั้นเอเยนต์ทัวร์ที่นี่สามารถให้บริการครอบคลุมการเดินทางต่อทั้งไปประเทศไทย ไปลาวเหนือแขวงอุดมไซ-บ่อแก้วหรือหัวพัน การเติบโตรวดเร็วของสวรรค์บนดินแห่งใหม่ที่ไม่แพ้วังเวียงแบบปากต่อปาก ทำให้เราสามารถพบเห็นนักท่องเที่ยวจากยุโรปอเมริกาฝรั่งเดินกันขวักไขว่มากกว่านักท่องเที่ยวบ้านใกล้อย่างคนไทยหลายขุม
หากวังเวียงคือแหล่งท่องเที่ยวกลางป่ามีเขามีน้ำที่ดิบ-บริสุทธิ์เหมาะกับการไปพักแบบชิล-ชิล หนองเขียว เมืองงอย มีสิ่งดังกล่าวแบบที่วังเวียงมีไม่แตกต่างกัน และจุดดังกล่าวนี้เองที่หนองเขียว เมืองงอย เติบโตพรวดขึ้นมาอย่างผิดตาในชั่วเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น และเชื่อแน่ว่าที่นี่จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของลาวภาคเหนืออย่างแน่นอน.
ข้อมูลเดินทางรถ-เรือประจำทาง
-รถมินิบัสจากหลวงพระบาง (เส้นทาง 1c เชื่อมกับถนนหมายเลข 13 ที่ปากมอง) 80,000 กีบ
-เรือโดยสาร (น้ำอู-ปากอู-น้ำโขง) ระยะเวลาประมาณ 8 ช.ม. ราคา 110,000 กีบ
บรรยายภาพ
แผนที่ท่องเที่ยว หลวงพระบาง หนองเขียว เมืองงอย ที่มา http://www.green-gathering.com/wp-content/uploads/2009/03/lpq_bg.jpg