บุกทลายอู่เถื่อนกลางป่านครไทย-คาดคนมีสีเอี่ยวด้วย

พิษณุโลก - ทลายอู่แยกชิ้นส่วนรถยนต์กลางป่าลึกนครไทย คาดคนมีสีเอี่ยว เผยก่อนตรวจค้นย้ายโครงรถยนต์ออกไปก่อน ทำให้ตำรวจขนแชสซีได้เพียงคันเดียว

วันนี้ (15 มี.ค. 56) พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผกก.สืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก ประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร นำโดย พ.อ.พงษ์เพชร เกตุสุภะ เข้าตรวจสอบอู่ซ่อมรถยนต์ไม่มีเลขที่กลางป่าห่างจากหมู่บ้าน ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ร่วม 10 กิโลเมตร หลังรับแจ้งว่ามีอู่ซ่อมรถยนต์เปิดอยู่กลางป่าในหุบเขา แต่ละวันจะมีรถทั้งเก๋งและกระบะเข้าไปเป็นจำนวนมาก โดยรถยนต์ที่ถูกนำเข้าไปจะถูกแยกชิ้นส่วนทันที ท่ามกลางความสงสัยว่าเป็นแหล่งโจรกรรมรถยนต์ที่ขโมยรถยนต์มาชำแหละแยกชิ้นส่วน เพื่อนำไปประกอบเป็นคันใหม่ และแยกอะไหล่ไปส่งขายให้กับร้านจำหน่ายอะไหล่เชียงกง

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงเป้าหมายสอบพบว่า ทางเข้าอู่ดังกล่าวมีเทคอนกรีตเป็นช่วงๆ แต่ส่วนใหญ่ทุรกันดารเป็นหลุมเป็นบ่อ เข้าออกลำบาก ตลอดเส้นทางมีบ้านเพียงไม่กี่หลัง และไม่มีใบอนุญาตเปิดอู่ตามกฎหมาย

ต่อมานายอนันต์ ขันตี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.7 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งมีบ้านติดอู่ดังกล่าว เป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในอู่ พบโครงรถยนต์ที่ถูกแยกเป็นชิ้นส่วนออกจากกันจำนวนมาก วางกระจายอยู่ทั่วบริเวณ และมีรถยนต์อีกหลายคันจอดเพื่อทำสี ซ่อมตัวถัง และซ่อมเครื่องยนต์ นอกจากนั้นยังมีการตัดแชสซีส์ตัวถังรถยนต์อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำมาเชื่อมต่ออีกคันหนึ่ง

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเป็นของกลาง นำไปเก็บไว้ที่ สภ.บ้านแยง เพื่อทำการตรวจสอบที่มาที่ไปอีกครั้ง

ทั้งนี้ มีรายงานว่าอู่ดังกล่าวเปิดมานานหลายปีแล้ว คาดว่าเป็นของคนมีสี ส่วนผู้ออกมารับเป็นเจ้าของเป็นเพียงผู้ดูแล ลูกค้ามีทั้งที่มาจากอุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น มีเคลื่อนย้ายโครงรถยนต์ออกไปนอกอู่ก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถนำแชสซีส์ที่ตัดต่อดัดแปลงไปตรวจสอบว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่ได้เพียงคันเดียว