หลายหน่วยงานจัดกิจกรรมคึกคักรับวันช้างไทย

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย นำช้าง 5 เชือกเดินรณรงค์ต่อต้านการทารุณช้าง ขณะที่โครงการคชอาณาจักร อุทิศส่วนกุศลให้ควาญช้าง และช้างที่ล้มตายที่สุสานช้าง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ด้านมูลนิธิช้างหัสดินทร์ จัดเลี้ยงเค้กผลไม้ยักษ์น้ำหนักกว่า 3 ตัน พร้อมโชว์ทีเด็ด “พังสงกรานต์” ช้างน้อยวัย 5 ขวบวาดรูป อดีตผู้ใหญ่บ้านลำปาง ร้องสื่อช้างถูกวางยาตัดงา 3 เดือนแล้ว คนเขาชะเมา จ.ระยอง ระทึกช้างป่า 20 ตัว บุกกินพืชไร่เสียหายยับ ขณะที่ จ.นครพนม ตื่นโขลงช้างป่าจากหนีข้ามโขงมาฝั่งไทย

วันนี้ (12 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็น “วันช้างไทย” หลายหน่วยงานได้จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทารุณช้าง โดยที่ จ.ลำปาง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จัดกิจกรรมรณรงค์ โดยเฉพาะการทำร้ายช้างเพื่อเอางา และฆ่าแม่ช้างเพื่อเอาลูกช้าง โดยนำช้าง 5 เชือก จัดขบวนแห่ไปตามถนนรอบเมืองลำปาง เริ่มตั้งแต่ข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ไปตามถนนทิพย์ช้าง ผ่านห้าแยกหอนาฬิกา พร้อมเปิดให้ประชาชนร่วมเลี้ยงอาหารช้าง ถ่ายรูปคู่กับช้าง ทั้งนี้ มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมตลอดสัปดาห์ภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เช่น นิทรรศการช้างไทย กาดหมั้ว จำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรม โดยเปิดให้เข้าฟรี

ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก มูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมวันที่ 12-13 มีนาคม ที่บ้านปูเต้อ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก มีคาราวานช้างจากบ้านยะพอ ชายแดนไทย-พม่า อ.พบพระ ไปยังบ้านปูเต้อ จากนั้นมีการเสวนา “การจัดทาพื้นที่บ้านปูเต้อ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” และวันที่ 13 มีนาคม จะมีการตรวจสุขภาพ และทะเบียนประวัติช้างที่มาร่วมงาน ขบวนแห่ช้างจากหน้าหมู่บ้านไปยังพื้นที่ที่จัดกิจกรรม การแสดงพื้นเมือง สาธิตการใช้ช้างทำงาน พิธีผูกข้อมือช้าง และกิจกรรมเลี้ยงอาหารช้าง-คน

ทั้งนี้ หมู่บ้านปูเต้อ เป็นหมู่บ้านที่อยู่ของพังโม่ตาลา ที่เหยียบกับระเบิดขณะชักลากไม้ในฝั่งพม่า ซึ่งงานนี้มีช้างที่เดินทางจากพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า และออกจากป่าตะเข็บชายแดนทั้งหมดกว่า 30 เชือก มาร่วมกิจกรรมที่บ้านปูเต้อ

ที่สำนักสงฆ์ป่าอาเจียง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นสุสานช้างรูปหมวกใบตาลสวมตอไม้ โครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป ประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ควาญช้าง คนเลี้ยงช้าง และช้างที่ล้มตายไปแล้ว ซึ่งได้นำกระดูกมาเก็บรักษาไว้ในสุสานช้าง 95 เชือก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของคนเลี้ยงช้างที่ได้ดูแลช้างไทยให้อยู่คู่ชาติไทยมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ช้างไทยมีคุณงามความดี เคยเป็นสัตว์พาหนะในยามสงคราม ช่วยกอบกู้ชาติบ้านเมืองของไทยให้มีเอกราชมั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งภายในงานได้มีการติดป้ายขนาดใหญ่ข้อความ “ขอประณามการล่าช้างป่าเพื่อเอางา และลูกช้าง”

เทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรมเลี้ยงเค้กผลไม้ขนาดยักษ์ หนักกว่า 3 ตัน ที่มูลนิธิช้างหัสดินทร์ อ.หัวหิน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งบางส่วนเป็นอาสาสมัคร เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เพื่อศึกษาชีวิตช้างไทย และชาวไทยเข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเห็นความสำคัญของช้างไทยซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และเป็นพระราชพาหนะคู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ไทยทุกยุคทุกสมัย รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างอาชีพ สร้างงานให้แก่กลุ่มคนเลี้ยงช้าง ไม่ให้นำช้างออกไปเร่ร่อนหากินในเมือง

วันนี้ยังเป็นวันครบรอบอายุ 89 ปี ของ “พังร่ำรวย” ที่มีอายุมากที่สุดของมูลนิธิช้างหัสดินทร์ และมากที่สุดของจังหวัด โดย พังร่ำรวย ถูกใช้งานอย่างหนัก ร่างกายไม่สมบูรณ์ เป็นโรคผิวหนัง มูลนิธิไถ่ชีวิตมาจากเจ้าของเดิมเพื่อมาดูแลรักษาให้มีความสุขในบั้นปลายของชีวิต ปัจจุบัน พังร่ำรวยกินได้เพียงอาหารเม็ด และผลไม้สุกเท่านั้น

ส่วน “พังลายทอง” ซึ่งมูลนิธิไถ่ชีวิตมาจาก จ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้ตั้งท้องได้ 18 เดือน นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวสนใจกันเป็นพิเศษ คือ ความน่ารักของลูกช้างเพศเมียวัย 5 ขวบ “พังสงกรานต์” ที่สามารถใช้งวงจับพู่กันวาดรูปต้นไม้ได้ สร้างความประหลาดใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

ขณะที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เตรียมพร้อมจัดงานวันช้างไทย วันที่ 13 มีนาคม ซึ่งช่วงเช้าจะมีพิธีเทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ช้างที่ตายในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีรายการพานักท่องเที่ยวชมช้างป่ากุยบุรี ราคาพิเศษคนละ 50 บาท ช่วงค่ำจะมีคอนเสิร์ตของศิลปินดารานักร้องชื่อดัง มีการจำหน่ายเสื้อที่จัดทำขึ้นในนามมูลนิธิช้างป่าบ้านพ่อ รายได้ช่วยช้างป่ากุยบุรี ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และอาหาร เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งมากว่า 4 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการจัดกิจกรรมต่อต้านการทารุณช้าง และฆ่าช้างเอางา แต่ “พลายจันทร์” หรือ “เจ้างาเดียว” ของนายธวัช เครือสาย อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านวังตม ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งถูกวางยาซึม และตัดงาที่เหลือเพียงข้างเดียวไปตั้งแต่วันที่11 ธันวาคม 2555 ปรากฏว่า คดียังไม่คืบหน้า โดยนายธวัช กล่าวว่า ยังเฝ้ารอการทำงานของตำรวจในการติดตามล่าตัวคนร้าย ส่วนเจ้างาเดียวตอนนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมาระยะหนึ่ง ตอนนี้อาการก็ดีขึ้นแล้ว

ขณะเดียวกัน ปัญหาคนกับช้างป่าก็ยังเกิดขึ้นเป็นระยะ โดยที่ จ.ระยอง พบว่า โขลงช้างป่าได้บุกเข้าทำลายพืชไร่บริเวณซอยสามแยกต้นไทร หมู่ 2 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ได้รับความเสียหายย่อยยับ ซึ่งนายบุญช่วย ทองดี หัวหน้าหน่วยพิทักษ์คลองพระเจ้า อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง กล่าวว่า โขลงช้างป่ามีประมาณ 20 ตัว กินพืชไร่ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้คลองส่งน้ำ ขณะที่นายพิทักษ์ ยิ่งยง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญงาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กล่าวว่า ช้างป่าโขลงนี้มีทั้งแม่ช้าง และลูกช้าง ลงจากเขาอ่างฤาไนมาหากินเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ซึ่งปกติช้างป่าเขาอ่างฤาไนนั้นจะหากินเป็นโขลง นิสัยดุร้าย เกรี้ยวกราด สามารถทำร้ายชาวบ้านได้ หากเครียด หรือถูกรังแก เมื่อตะวันตกดินก็จะเดินกลับขึ้นเขาไปเอง ดังนั้น อย่าไปรังแกด้วยการยิงปืน หรือจุดประทัดใส่เป็นอันขาด เพราะอาจถูกทำร้ายถึงกับชีวิตได้

ที่ จ.นครพนม ชาวบ้านพบช้างป่า 4-5 ตัว ข้ามแม่น้ำโขงมาจากฝั่งลาว เข้ามาในเขตบ้านนากะเสิม ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เนื่องจากดุร้าย โดยยังอยู่ในพื้นที่ป่าใกล้หมู่บ้าน ซึ่งนายดุลยสิทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องช้าง จากสำนักพระราชวัง เดินทางลงพื้นที่พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอันตรายจากช้างป่าที่อาจทำร้ายชาวบ้าน และประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนเข้าไปในป่าช่วงกลางคืน และห้ามทำร้ายเมื่อพบเห็นช้าง ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ พบว่า ช้างตัวหนึ่งมีงายาวมาก อายุน่าจะประมาณ 15 ปี น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 3 ตัน

ล่าสุด นายปรีชา คำมุงคุณ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านได้เฝ้าดูช้างกินอาหารอยู่ในป่าเขตบ้านโพนทอง ต.โพนทอง อ.บ้านแพง คาดว่าจะบ่ายหน้าขึ้นสู่เทือกเขาภูลังกา อ.บ้านแพง แต่เจ้าหน้าต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าพวกค้างาช้างจะมาลักลอบยิงเพื่อเอางา

ทางด้านเหตุสลดใจช้างป่าเพศเมียถูกยิงตายกลางป่าเด็ง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อเอาลูกช้างนั้น ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ประชุมร่วมกันเพื่อวางมาตรการการแก้ปัญหา ส่วนความคืบหน้าติดตามจับกุมขบวนการล่าช้างป่านั้น ขณะนี้ตำรวจได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อเร่งติดตามแล้ว ส่วนลูกช้างนั้นคาดว่าจะยังคงอยู่ใน จ.เพชรบุรี