สุรินทร์ - “วังทะลุ” แม่น้ำมูล แหล่งน้ำเลี้ยงช้างหมู่บ้านช้างสุรินทร์แห้งขอดกลายเป็นเนินทราย ต้องนำรถขนน้ำจากที่อื่นมาให้ช้างได้ดื่มและอาบคลายร้อน วันละ 15,000 ลิตร ขณะหญ้าอาหารช้างแห้งตายอื้อ ล่าสุดจังหวัดฯ ประกาศภัยพิบัติแล้งแล้ว 13 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 3.4 แสนคน ต้องแบ่งโซนแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค
วันนี้ (7 มี.ค. 56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่แห้งแล้งในขณะนี้ ส่งผลกระทบให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติต่างๆในพื้นที่ จ.สุรินทร์แห้งขอดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่บริเวณวังทะลุ แม่น้ำมูล บ้านตากลางหมู่บ้านช้างสุรินทร์ ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับเลี้ยงช้างของหมู่บ้านช้างสุรินทร์ ขณะนี้น้ำได้แห้งขอดกลายเป็นเนินทรายโผล่ขึ้นเป็นบริเวณกว้าง ไม่มีน้ำเพียงพอให้ช้างได้ดื่มกินและลงเล่นน้ำคลายร้อนเช่นที่ผ่านมา
ทางองค์การสวนสัตว์ได้แก้ปัญหาด้วยการนำรถบรรทุกน้ำไปสูบน้ำตามแหล่งน้ำใกล้เคียงที่ยังพอมีน้ำเหลืออยู่มาให้ช้างได้ดื่มและอาบคลายร้อน วันละ 15,000 ลิตร โดยสร้างอ่างปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่บรรจุน้ำกระจายไว้ในพื้นที่ศูนย์คชศึกษา และโครงการคชอาณาจักร หมู่บ้านช้างสุรินทร์ จำนวน 3 จุด เพื่อให้ควาญช้างได้นำช้างมากินน้ำและอาบน้ำ บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
ขณะที่พื้นที่ปลูกหญ้าบานาอาหารช้าง ประสบปัญหาแห้งแล้งต้นหญ้าที่ปลูกไว้ให้ช้างกินเหี่ยวแห้งตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งองค์การสวนสัตว์กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้พยายามเร่งแก้ไขปัญหาต่อไป
ทางด้านจังหวัดสุรินทร์ ล่าสุดได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งฉุกเฉินแล้วจำนวน 13 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง, อ.จอมพระ, อ.รัตนบุรี, อ.เขวาสินรินทร์, อ.ศรีณรงค์, อ.สำโรงทาบ, อ.ท่าตูม, อ.ศีขรภูมิ, อ.สังขะ, อ.กาบเชิง, อ.โนนารายณ์, อ.ปราสาท และ อ.พนมดงรัก จำนวน 102 ตำบล 1,301 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 61.37 ของพื้นที่ทั้งหมด มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 127,062 ครัวเรือน จำนวน 346,308 คน คิดเป็นร้อยละ 39.22 ของครัวเรือนทั้งหมด
สำหรับอีก 4 อำเภอที่ยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง ได้แก่ อ.ชุมพลบุรี, อ.สนม, อ.บัวเชด และ อ.ลำดวน ซึ่ง จ.สุรินทร์ได้จัดโซนนิ่งในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งเป็น 5 กลุ่มพื้นที่ พร้อมประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระดมให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยแล้งอย่างรวดเร็ว และแจกจ่ายน้ำแก่ราษฎรที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ประสบภัย