สุรินทร์ - กรมอุทยานฯ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ และสัตวแพทย์กว่า 100 นายเข้าตรวจตั๋วรูปพรรณช้างและตรวจลักษณะช้างใน “คชอาณาจักร” และ “ศูนย์คชศึกษา” หมู่บ้านช้างสุรินทร์ อ.ท่าตูม รวม 196 เชือก เบื้องต้นไม่มีปัญหาได้รับความร่วมมือจากโครงการฯ และเจ้าของช้างเป็นอย่างดี แต่พบพิรุธย้ายช้างออกไปก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ 3 เชือก เตรียมตามตรวจสอบต่อไป
วันนี้ (24 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างสุรินทร์ บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นายไพบูลย์ รัตนะเจริญธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยสัตวแพทย์ จำนวน 100 นาย เข้าตรวจสอบตั๋วรูปพรรณช้างจำนวน 138 เชือก ที่เข้าร่วมใน “โครงการคชอาณาจักร” ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยได้รับความร่วมมือจากควาญช้างและเจ้าของช้างได้นำช้างจำนวน 138 เชือกเข้าตรวจตั๋วรูปพรรณ และตรวจลักษณะช้างให้ตรงตามตั๋วรูปพรรณ พร้อมทั้งตรวจสอบไมโครชิพที่ฝังอยู่ใต้ใบหูช้างทุกเชือก
การเข้าตรวจตั๋วรูปพรรณช้าง และลักษณะของช้างในครั้งนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และสัตวแพทย์ออกเป็นหลายชุด โดยทำการตรวจตั๋วรูปพรรณเจ้าของช้าง และตรวจลักษณะตัวช้าง ให้ตรงตามที่แจ้งไว้ในตั๋วรูปพรรณช้าง ซึ่งการตรวจตั๋วรูปพรรณช้าง และตรวจช้างในวันนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะเจ้าของช้างให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี มีการจัดเตรียมเอกสารตั๋วรูปพรรณและนำช้างมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจอย่างรวดเร็ว นับเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจตั๋วรูปพรรณช้างภายในศูนย์คชศึกษาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
จากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ (24 เม.ย.) ได้ดำเนินการตรวจตั๋วรูปพรรณ และตรวจช้างอีก 58 เชือก ซึ่งเป็นช้างที่อยู่ในความรับผิดชอบของ “โครงการนำช้างคืนถิ่นพัฒนาบ้านเกิดศูนย์คชศึกษา” ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ ซึ่งการตรวจตั๋วรูปพรรณช้าง และตรวจช้าง สามารถดำเนินการอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะเจ้าของช้าง คนเลี้ยงช้างได้มีการเตรียมสารและนำช้างเข้าตรวจอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สามารถตรวจตั๋วรูปพรรณ และตรวจลักษณะช้างได้ครบ ทั้ง 196 เชือกในวันเดียวกัน
นายไพบูลย์ รัตนะเจริญธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงการดำเนินการดังกล่าวว่า เป็นนโยบายของกรมอุทยานฯ ที่จะมีการตรวจสอบปางช้างทุกปางช้างทั่วประเทศ ว่ามีการนำช้างป่ามาสวมตั๋วรูปพรรณหรือไม่ ในพื้นที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี รับผิดชอบในส่วนของจังหวัดสุรินทร์ จึงได้มีการนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบช้างภายในศูนย์คชศึกษาและโครงการคชอาณาจักร ซึ่งมีช้างประมาณ 215 เชือก โดยได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งปศุสัตว์ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากโครงการคชอาณาจักร และเจ้าของช้าง ในการนำช้างมาตรวจรูปพรรณจำนวน 196 เชือก
หลังเสร็จจากการตรวจจะได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้นเพื่อสรุปว่าตั๋วรูปพรรณถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องจะทำบัญชีว่าผ่านการตรวจรูปพรรณถูกต้องต่อไป หากไม่ถูกต้องก็จะทำบัญชีอายัดไว้ จากนั้นจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลักฐานมาเพิ่มเติม หากตรวจพบว่าผิดไม่ตรงกับตรวจรูปพรรณ มีความผิดชัดเจน จะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
“ในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากศูนย์คชอาณาจักรและเจ้าของช้างเป็นอย่างดี ไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งผู้ที่นำช้างมาให้ตรวจในวันนี้ถือว่ามีความตั้งใจจริง และบริสุทธิ์ใจ แต่พบว่ามีเจ้าของช้างนำช้างออกจากศูนย์คชศึกษาไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจ 3 เชือก ซึ่งทราบว่ามีการนำช้างไปยังปางช้างที่ภาคใต้ คือ จ.ภูเก็ต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบต่อไป” นายไพบูลย์กล่าว
ด้านนายสัตวแพทย์วันชัย ตันวัฒนา ผู้จัดการโครงการคชอาณาจักร กล่าวว่า ในปีนี้ทางโครงการคชอาณาจักรได้รับช้างเข้าโครงการจำนวน 157 เชือก ผ่านมา 4 เดือนมีช้างบางเชือกลาออกไปและบางเชือกล้มตาย ทำให้มีช้างเหลืออยู่จำนวน 138 เชือก ซึ่งมั่นใจว่าไม่มีปัญหา เพราะช้างที่เข้าร่วมโครงการจะมีการตรวจสอบตั๋วรูปพรรณช้างและมีการฝังไมโครชิพทุกเชือกเมื่อมีการตรวจสุขภาพ จึงมั่นใจว่าไม่น่ามีปัญหา ในขณะที่ควาญช้างก็มีการเตรียมหลักฐานไว้พร้อมและอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจเพื่อความสบายใจ
