ASTV ผู้จัดการ ออนไลน์ - ภัยแล้งรุกหนัก ลำห้วยท่าสองยาง-แม่ระมาด จ.ตาก บางสายกลายเป็นถนน ขณะที่เกษตรกรนครสวรรค์เดือดร้อนหนัก ไม่มีน้ำทำการเกษตร ด้าน ส.ส.กาฬสินธุ์ ร่วมนำรถบรรทุกน้ำดื่ม 4 หมื่นลิตร แจกจ่ายชาวชาวบ้าน หลังพบว่าแหล่งน้ำแห้งขอด ประปาหนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ต้องกำหนดเวลาจ่ายน้ำวันละ 10 ชั่วโมง สวนทางชาวบ้านวังน้ำเย็นที่วังสะพุงยิ้มร่า แหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ยึดอาชีพขายน้ำรายได้งาม
วันนี้ (10 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตาก ว่า ภัยแล้งส่งผลกระทบให้น้ำในแม่น้ำ และลำห้วยที่ไหลผ่านหลายหมู่บ้านใน อ.แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง เช่น ลำห้วยแม่ปากอง ลำห้วยแม่ออกฮู ลำห้วยแม่สอง แห้งลงจนกลายเป็นถนน ชาวบ้านสามารถใช้รถสัญจรได้ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก พืชสวนไร่นาเสียหาย จนต้องร้องเรียนไปยังนายอำเภอแม่ระมาด และนายอำเภอท่าสองยาง รวมทั้ง นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เพื่อขอให้สั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร และประชาชนโดยด่วน
จ.นครสวรรค์ นายประสาท ศรีวรรณ ชาวบ้านตำบลหนองกรด อ.เมือง กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำสาธารณะขนาดใหญ่เริ่มแห้งขอด เหลือแต่ดินทราย เนื่องจากเกษตรกรเร่งสูบน้ำเพื่อเยียวยาต้นข้าว ทำให้เกษตรกรจำนวนมากในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ขณะที่ชาวนาบางคนอยู่ไกลแหล่งน้ำไม่สามารถสูบน้ำเข้าพื้นที่นาได้ ต้องเตรียมปรับพื้นที่นาแล้วรอฝนตก เพื่อทำนาฤดูกาลต่อไป
ขณะที่ นายธนากร แจ่มกล่ำ เกษตรกรหมู่ 7 ต.สุขสำราญ อ.ตากฟ้า กล่าวว่า ตนปลูกดาวเรืองซึ่งเป็นพืชอายุสั้นนับหมื่นต้น ขณะนี้เริ่มเหี่ยวเฉา แคระแกร็น มีแมลงศัตรูพืชรบกวน ทำได้เพียงวางท่อทำระบบน้ำพุ่งให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันดาวเรืองแห้งตาย แม้ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้นก็ตาม
ด้าน นางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย พร้อมนายเดชา พลกล้า รักษาการหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมือง ร่วมกันนำรถบรรทุกน้ำดื่ม 4 หมื่นลิตร แจกจ่ายประชาชนที่ประสบภัยแล้ง หลังพบว่าแหล่งน้ำใน 3 ตำบลนี้ที่ใช้ผลิตน้ำประปาเริ่มแห้งขอด ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ภัยแล้งหนักสุดในรอบ 45 ปี โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว เหลือปริมาณน้ำในอ่างเพียง 264 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 13% ใช้ได้เพียง 164 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
ที่ จ.ขอนแก่น พื้นที่ 12 ตำบล 1 เทศบาลของ อ.หนองสองห้อง กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากบึงหนองสองห้อง ที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ที่ใช้ผลิตน้ำประปาหล่อเลี้ยงประชาชนใน อ.หนองสองห้อง ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาเป็นอย่างมาก เบื้องต้น การประปาส่วนภูมิภาค สาขาหนองสองห้อง ต้องแก้ปัญหาด้วยการจ่ายน้ำวันละ 10 ชั่วโมง โดยจ่ายช่วงเช้า 5 ชั่วโมง และช่วงเย็น 5 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ภัยแล้งยังส่งผลกระทบต่อนกเป็ดน้ำ 3 สายพันธุ์ นกกระยาง นกกระปูด นกกระเต็น นกกาเหว่า และนกเอี้ยง จากเดิมที่ใช้หนองน้ำหนองสองห้องเป็นที่พักอาศัยและหากิน แต่ปริมาณน้ำที่ลดลงทำให้นกต้องย้ายไปหาแหล่งอาศัยใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้หลายพื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างหนัก แต่ที่บ้านวังน้ำเย็น หรือบ้านวังเดือนห้า หมู่ที่ 13 ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย มีแหล่งน้ำใต้ดินที่อุดมสมบูรณ์ ไหลตลอดปีไม่มีหมด ทำให้หลายคนหันมายึดอาชีพขายน้ำอุปโภคบริโภค โดยนายปิ่นตอง นิกรสุข อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 10 บ้านศรีบุญเรือง ต.วังสะพุง กล่าวว่า เดิมหมู่บ้านนี้ชื่อบ้านวังเดือนห้า ซึ่งวังหมายถึงแหล่งน้ำ เดือนห้า หรือเดือนเมษายน หมายถึงขนาดเดือนเมษายนที่เป็นเดือนที่ร้อน และแห้งแล้งที่สุดยังมีน้ำสะอาด ปราศจากเชื้อโรคให้บริโภค ซึ่งสาธารณสุขอำเภอมาตรวจสอบแล้วยืนยันว่าปลอดภัย
“แค่ขุดลงไปเพียง 3 เมตร น้ำก็พุ่งขึ้นมา น่าจะเป็นที่เดียวในภาคอีสาน จึงมีชาวบ้านพากันมาซื้อน้ำไปอุปโภคบริโภค ผมยึดอาชีพขายน้ำมาตั้งแต่ปี 2510 จนถึงวันนี้ต้องใช้รถกระบะปั๊มน้ำบริการผู้คนจากทั่วสารทิศ นอกจากจะมาซื้อน้ำถึงที่แล้ว ยังขนส่งถึงบ้านในเขต อ.วังสะพุง ราคา 300 บาท ต่อ 1,000-1500 ลิตร ราคานอกเขตคิดตามระยะทาง โดยไปส่งไกลที่สุดถึง จ.หนองบัวลำภู ระยะทาง 65 กิโลเมตร ราคา 500 บาท วันหนึ่งวิ่งได้ 7-8 เที่ยว”
นายปิ่นตอง กล่าวว่า ปัจจุบัน มีคนในหมู่บ้านยึดอาชีพนี้ราว 10 ราย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงหน้าแล้ง คาดว่าปีนี้จะแล้งมากคงขายได้ยาวไปจนกว่าจะมีฝนตก หรือต้นเดือนมิถุนายน