xs
xsm
sm
md
lg

บุกทลาย รง.บุรีรัมย์แหล่งพักไม้พะยูงใหญ่สุดอีสาน ซุก 200 ท่อนกว่า 300 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จนท.บุกทลายโกดังร้างนายทุนเช่าเปิดโรงงานแปรรูปพาเลทไม้บังหน้า เป็นแหล่งพักและแปรรูปไม้พะยูงใหญ่ที่สุดในอีสาน พบไม้พะยูงกว่า 200 ท่อน มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่ ต.ตะโกตาพิ  อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ วันนี้ ( 8 มี.ค.)
บุรีรัมย์ - ตร.บุรีรัมย์สนธิกำลัง จนท.หลายฝ่ายร่วม 100 นาย บุกทลายโกดังร้างนายทุนเช่าเปิด รง.แปรรูปพาเลตไม้บังหน้า เป็นแหล่งพักและแปรรูปไม้พะยูงใหญ่ที่สุดในอีสาน พบไม้พะยูงขนาดใหญ่ซุกซ่อนอื้อกว่า 200 ท่อน มูลค่ากว่า 300 ล้าน หากส่งออกต่างประเทศมูลค่าเพิ่มอีก 10 เท่า จนท.ตรวจยึดไว้ดำเนินคดี พร้อมขยายผลคาดทำเป็นขบวนการ

เมื่อเวลา 14.00 น. (8 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ได้สนธิกำลังกับชุดเฉพาะกิจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,เจ้าหน้าที่ป่าไม้จ.นครราชสีมา, หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์, ตำรวจ สภ.ประโคนชัย และหน่วยป้องกันรักษาป่า บร.3 ประโคนชัย ร่วม 100 นาย นำโดย พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เลขที่ ค.43/2556 บุกเข้าปิดล้อมตรวจค้นโกดังร้างแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 85 ม.8 บ.โคกกระชาย ต.ตะโกตาพิ อ.ประโคนชัย ถนนสายประโคนชัย-นางรอง หลังได้รับแจ้งว่ามีนายทุนรายหนึ่งจากกรุงเทพฯ มาเช่าเปิดเป็นโรงงานแปรรูปพาเลทไม้ บังหน้า แต่มีการลักลอบแปรรูปไม้หวงห้ามโดยผิดกฎหมาย

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นภายในโกดัง พบไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ทั้งที่แปรรูปเป็นแผ่นและไม้ท่อนที่ยังไม่ได้แปรรูปขนาดใหญ่กระจายซุกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ ทั้งใต้พาเลต และกองขี้เลื่อยมากกว่า 200 ท่อน มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท พร้อมทั้งยังมีการทาสีอำพรางเตรียมส่งจำหน่ายต่างประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งหากสามารถส่งออกจำหน่ายยังต่างประเทศได้จะมีมูลค่าเพิ่มอีก 10 เท่าตัว อีกทั้งยังพบมีการจ้างแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาในการแปรรูปไม้ดังกล่าวด้วย

ต่อมานายปรีชาพัฒน์ หรือเหน่ง นภาสินชัยบูรณ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ถนนบ้านเมือง-แถลง ต.บ้านเมือง อ.บ้านเมือง จ.ชลบุรี ได้รับว่าเป็นผู้เช่าโกดังร้างดังกล่าวเปิดเป็นโรงงานแปรรูปไม้ยูคาลิปตัส และไม้จามจุรี ทำพาเลตเพื่อจำหน่ายตามจังหวัดต่างๆ แต่อ้างว่าไม้พะยูงที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบมีนายทุนมาจ้างให้แปรรูป โดยอ้างว่าเป็นไม้ที่นำมาจากพื้นที่มีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินไม่มีความผิด จึงตกลงรับจ้างแปรรูปให้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคาดว่าน่าจะทำเป็นขบวนการ โดยการเปิดโรงงานทำพาเลทบังหน้า

พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผบก.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การสนธิกำลังหลายฝ่ายบุกเข้าตรวจค้นจับกุมโรงงานแปรรูปไม้ในครั้งนี้ ถือเป็นแหล่งรวมในการซุกซ่อนและแปรรูปไม้พะยูงที่ใหญ่ที่สุดในเขตพื้นที่ภาคอีสาน จึงเชื่อว่าน่าจะมีการทำเป็นขบวนการ และทำมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-6 ปี ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้อยู่เบื้องหลัง และผู้ร่วมขบวนการค้าไม้หวงห้ามดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไปด้วย

ทางด้าน พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ทำการจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้และมีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในความครอบครองอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สกลนคร และนครพนม แต่การเข้าตรวจค้นจับกุมโรงงานและแหล่งพักไม้ที่บุรีรัมย์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นแหล่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และไม้ที่ตรวจยึดยังมีขนาดใหญ่กว่าที่เคยจับกุมมา

“เชื่อว่าไม้ดังกล่าวน่าจะตัดมาจากในเขตป่าลึก และทำกันเป็นขบวนการใหญ่ ซึ่งจะมีการขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งจะได้เพิ่มมาตรการตรวจจับให้เข้มข้นมากขึ้นด้วย ก่อนที่ทรัพยากรของชาติจะหมดไป” พ.ต.อ.มนตรีกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวนายปรีชาพัฒน์ นภาสินชัยบูรณ์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายโดยแจ้งข้อหา “มีไม้หวงห้ามประเภท 1 (ไม้พะยูง) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าว” ส่วนไม้ของกลางทั้งหมดได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และมอบให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ดูแลรักษาต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น