ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ภัยแล้งขอนแก่นน่าห่วง เขื่อนอุบลรัตน์เหลือน้ำใช้การแค่ 13% ล่าสุดขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปาหลายหมู่บ้าน เหตุชาวบ้านริมคลองส่งน้ำแย่งสูบเข้าที่ตนเอง ขณะที่จังหวัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือแล้ว
วันนี้(28 ก.พ.) นายทรงยศ เจิดนภาพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ใช้การได้แค่ 257 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) และยังไม่มีน้ำไหลเข้า ซึ่งเขื่อนต้องระบายน้ำอย่างน้อย 1 ล้านลบ.ม.เพื่อหล่อเลี้ยงระบบนิเวศ และผลิตน้ำประปา อีกทั้งน้ำเกิดระเหยตามธรรมชาติวันละ 8 แสนลบ.ม. เฉลี่ยต่อวันมีน้ำไหลออกจากเขื่อน 1.8 ล้านลบ.ม.
"นอกจากนี้ยังมีปัญหาน้ำที่ระบายออกไปไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาชุมชน รวมถึงเขตเทศบาลนครขอนแก่น เนื่องจากชาวบ้านริมคลองส่งน้ำ ได้แย่งสูบน้ำเข้าพื้นที่ของตนเอง ซึ่งโรงไฟฟ้ายืนยันว่าได้ส่งน้ำดิบผ่านคลองส่งน้ำชลประทานในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนริมคลอง อย่าสูบน้ำเข้าพื้นที่ตนเอง ควรสงวนไว้ผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น"
นายทรงยศ กล่าวว่า ข้อมูลที่น่าสนใจจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าช่วงเดือนพฤษภาคม จะเริ่มมีฝนตกลง แต่ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ฝนทิ้งช่วงถึง 3 เดือน ซึ่งปริมาณน้ำที่เหลือในเขื่อนและฝนที่ตกเดือนพฤษภาคมนี้ จะเพียงพอต่อการใช้หรือไม่ยังไม่ทราบ ประชาชนจึงไม่ควรประมาท การใช้น้ำอย่างประหยัด และรู้คุณค่ายังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการสำรวจเบื้องต้นมีประชาชนเดือดร้อนแล้ว 679,588 คน 184,333 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 733,948.25 ไร่ แยกเป็นนาข้าว 732,552.25 ไร่ พืชไร่ 1,396 ไร่ มูลค่าความเสียหายกว่า 700 ล้านบาท โดยจังหวัดได้อนุมัติใช้เงินทดรองราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ จังหวัดได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ขอนแก่น นำน้ำดื่ม ถังไฟเบอร์กลาส ข้าวสาร แจกจ่ายให้ประชาชนที่ประสบภัยแล้งในอ.น้ำพอง และร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 23 แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแล้วกว่า 2,400 เที่ยว จำนวน 20.8 ล้านลิตร ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด และขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปรัง ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี