ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แม่ค้าตลาดต้นตาลนับร้อยโห่ไล่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น อวดเบ่งอ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ขู่จับแม่ค้าขายอุปกรณ์มือถือ แต่เมื่อแม่ค้าขอดูเอกสารตรวจจับกลับไม่ให้ดู หวิดถูกรุมสกรัมเพราะพฤติกรรมกร่าง เหตุการณ์เกือบบานปลายจนต้องแจ้งสายตรวจเข้ามาระงับเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น.เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ตลาดต้นตาล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้ประกอบการนับร้อยคนมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าร้านเสือป่าของ น.ส.ณัฐชยา คำบัว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 588/68 ซ.หน้าเมือง 17 ถ.หน้าเมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ เพราะไม่พอใจที่มีกลุ่มคนที่เข้ามาอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่สินค้าลิขสิทธิ์ที่เข้ามายึดสินค้าในร้านโดยไม่แสดงหนังสือมอบอำนาจจากบริษัทลิขสิทธิ์จึงสร้างความไม่พอใจให้เจ้าของร้าน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาดต้นตาลกันตัวขึ้นไปยังห้องสำนักงานชั้น 2 แต่กลุ่มแม่ค้าก็ยังร้องตะโกนโห่ร้องไล่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้ออกมาถ่ายรูปและโต้เถียงกับกลุ่มแม่ค้าด้วยคำพูดที่ค่อนข้างท้าทาย ทำให้กลุ่มแม่ค้าไม่พอใจกรูขึ้นไปหานายตำรวจ และไปอออยู่หน้าห้องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปนั่งพัก พร้อมกับตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา
น.ส.ณัฐชยากล่าวว่า เปิดร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่ตลาดต้นตาลมานานกว่า 1 ปีแล้ว ช่วงที่เกิดเหตุ น.ส.ณัฐชยาอ้างว่าขณะที่กำลังขายสินค้าอยู่นั้นมีชายแต่งกายในชุดลำลองจำนวน 5 คนเดินเข้ามาในร้าน หยิบเคสโทรศัพท์ลายสัญลักษณ์ทีมฟุตบอลชื่อดัง จำนวน 7-8 ชิ้น พร้อมแจ้งตนด้วยสีหน้าขึงขังและบอกว่าสินค้าที่ขายอยู่เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หลังจากนั้นก็ถือวิสาสะค้นสินค้าในร้านจนกระจัดกระจาย ซึ่งตนเห็นท่าไม่ดีก็เลยตั้งสติและถามขอดูหนังสือหรือเอกสารในการตรวจค้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็หยิบบัตรตำรวจออกมาโชว์แล้วก็เก็บทันทีทั้งที่ตนยังไม่ได้ดูเลย จากนั้นก็จะเก็บเอาสินค้าในร้านใส่ในถุงดำที่เตรียมมาด้วย แต่ตนไม่ยอมเพราะไม่มีเอกสารหนังสือมอบอำนาจจากบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์มาให้ดูแต่อย่างใด ทั้งยังสั่งให้ตนไปที่โรงพัก ตนจึงได้โวยวายเสียงดังไม่ยอมท่าเดียว จนเพื่อนๆ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดได้ยินและต่างก็มาช่วยกันทั้งรุมตะโกนถามหาเอกสาร จนทั้งหมดเดินออกไป โดยบอกว่าจะไปเอาเอกสารมาให้ และเดินกลับมาเพียงคนเดียวและจะมาเขียนเอกสารที่ร้าน
น.ส.ณัฐชยากล่าวว่า พฤติกรรมของนายตำรวจเหล่านี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ที่พวกตนจำเป็นต้องออกมาโวยวายและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับไปโรงพัก เพราะหลายคนเคยมีประสบการณ์ถูกจับและถูกปรับมาแล้วกันทั้งนั้น ซึ่งตนก็เคยถูกจับเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยตอนนั้นเป็นเคสโทรศัพท์ลายโดราเอมอน ตนต้องไปที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจและคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ให้ตนเสียค่าปรับ 15,000 บาทแต่ตนมีเงินไม่พอ ต่อรองจ่าย 8,000 บาท โดยตนเก็บใบเสร็จรับเงินไว้อย่างดี และได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้จึงระมัดระวังและมีสติมากขึ้น ถ้ามีเจ้าหน้าที่มาแอบอ้างหรือมาตรวจจับ จะต้องขอดูหลักฐานเอกสารเสียก่อน ซึ่งถ้าผิดหรือถูกก็จะต้องต่อสู้กันในชั้นศาล ไม่ใช่มาข่มขู่เอาเงิน แม่ค้าที่นี่แทบจะไม่เป็นอันทำมาหากินต้องคอยหลบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าหลบไม่ทันก็ต้องไปโรงพักยอมเสียเงินเพื่อไม่ให้ขึ้นโรงขึ้นศาล เสียเวลาทำมากิน แต่สำหรับตนพร้อมที่จะทำตามกติกาถูกก็ว่าถูกผิดก็ว่าผิด
น.ส.ณัฐชยาเล่าอีกว่า สินค้าที่ตนนำมาขายเป็นสินค้าแฟชั่นที่ไปซื้อมาจากร้านค้าส่งย่านเสือป่า กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวนไม่มาก ถ้าจะจับว่าผิดกฎหมายหรือละเมิดลิขสิทธิ์ก็ควรจะไปจับที่ต้นทาง ไม่ใช่มาเอาเปรียบแม่ค้ารายเล็ก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกให้ น.ส.ณัฐชยาเข้าไปคุยเพื่อตกลงในห้อง แต่ น.ส.ณัฐชยาและกลุ่มแม่ค้าไม่ยอมทำตาม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกมาเพื่อเจรจา โดยชูแผ่นเอกสารที่อ้างว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจแต่เมื่อขอดูกลับไม่ให้ดู กลุ่มพ่อค้าก็เลยกรูเข้าไปรุม เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่าจะถูกทำร้ายจึงรีบหลบเข้าห้องพักตามเดิม
จนกระทั่งเวลา 20.30 น.คืนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่อ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ก็อาศัยช่วงชุลมุน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองเข้ามาไกล่เกลี่ย เดินหลบลงบันไดและออกไปจากตลาดอย่างรวดเร็ว แม่ค้าหลายคนวิ่งตามพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบไปขึ้นรถออกไปจากตลาดทันที ทำให้เหตุการณ์สงบลง แต่พ่อค้าแม่ค้าก็ยังจับกลุ่มคุยกันและต่างก็ลงความเห็นว่าจะช่วยกันทุกครั้งถ้าผิดสังเกตและมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจับโดยไม่แสดงหลักฐานตามกระบวนการทางกฎหมาย
คลิกเพื่อชมคลิป :
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น.เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ตลาดต้นตาล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้ประกอบการนับร้อยคนมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าร้านเสือป่าของ น.ส.ณัฐชยา คำบัว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 588/68 ซ.หน้าเมือง 17 ถ.หน้าเมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ เพราะไม่พอใจที่มีกลุ่มคนที่เข้ามาอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่สินค้าลิขสิทธิ์ที่เข้ามายึดสินค้าในร้านโดยไม่แสดงหนังสือมอบอำนาจจากบริษัทลิขสิทธิ์จึงสร้างความไม่พอใจให้เจ้าของร้าน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาดต้นตาลกันตัวขึ้นไปยังห้องสำนักงานชั้น 2 แต่กลุ่มแม่ค้าก็ยังร้องตะโกนโห่ร้องไล่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้ออกมาถ่ายรูปและโต้เถียงกับกลุ่มแม่ค้าด้วยคำพูดที่ค่อนข้างท้าทาย ทำให้กลุ่มแม่ค้าไม่พอใจกรูขึ้นไปหานายตำรวจ และไปอออยู่หน้าห้องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปนั่งพัก พร้อมกับตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา
น.ส.ณัฐชยากล่าวว่า เปิดร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่ตลาดต้นตาลมานานกว่า 1 ปีแล้ว ช่วงที่เกิดเหตุ น.ส.ณัฐชยาอ้างว่าขณะที่กำลังขายสินค้าอยู่นั้นมีชายแต่งกายในชุดลำลองจำนวน 5 คนเดินเข้ามาในร้าน หยิบเคสโทรศัพท์ลายสัญลักษณ์ทีมฟุตบอลชื่อดัง จำนวน 7-8 ชิ้น พร้อมแจ้งตนด้วยสีหน้าขึงขังและบอกว่าสินค้าที่ขายอยู่เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หลังจากนั้นก็ถือวิสาสะค้นสินค้าในร้านจนกระจัดกระจาย ซึ่งตนเห็นท่าไม่ดีก็เลยตั้งสติและถามขอดูหนังสือหรือเอกสารในการตรวจค้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็หยิบบัตรตำรวจออกมาโชว์แล้วก็เก็บทันทีทั้งที่ตนยังไม่ได้ดูเลย จากนั้นก็จะเก็บเอาสินค้าในร้านใส่ในถุงดำที่เตรียมมาด้วย แต่ตนไม่ยอมเพราะไม่มีเอกสารหนังสือมอบอำนาจจากบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์มาให้ดูแต่อย่างใด ทั้งยังสั่งให้ตนไปที่โรงพัก ตนจึงได้โวยวายเสียงดังไม่ยอมท่าเดียว จนเพื่อนๆ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดได้ยินและต่างก็มาช่วยกันทั้งรุมตะโกนถามหาเอกสาร จนทั้งหมดเดินออกไป โดยบอกว่าจะไปเอาเอกสารมาให้ และเดินกลับมาเพียงคนเดียวและจะมาเขียนเอกสารที่ร้าน
น.ส.ณัฐชยากล่าวว่า พฤติกรรมของนายตำรวจเหล่านี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ที่พวกตนจำเป็นต้องออกมาโวยวายและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับไปโรงพัก เพราะหลายคนเคยมีประสบการณ์ถูกจับและถูกปรับมาแล้วกันทั้งนั้น ซึ่งตนก็เคยถูกจับเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยตอนนั้นเป็นเคสโทรศัพท์ลายโดราเอมอน ตนต้องไปที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจและคนที่อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ให้ตนเสียค่าปรับ 15,000 บาทแต่ตนมีเงินไม่พอ ต่อรองจ่าย 8,000 บาท โดยตนเก็บใบเสร็จรับเงินไว้อย่างดี และได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้จึงระมัดระวังและมีสติมากขึ้น ถ้ามีเจ้าหน้าที่มาแอบอ้างหรือมาตรวจจับ จะต้องขอดูหลักฐานเอกสารเสียก่อน ซึ่งถ้าผิดหรือถูกก็จะต้องต่อสู้กันในชั้นศาล ไม่ใช่มาข่มขู่เอาเงิน แม่ค้าที่นี่แทบจะไม่เป็นอันทำมาหากินต้องคอยหลบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าหลบไม่ทันก็ต้องไปโรงพักยอมเสียเงินเพื่อไม่ให้ขึ้นโรงขึ้นศาล เสียเวลาทำมากิน แต่สำหรับตนพร้อมที่จะทำตามกติกาถูกก็ว่าถูกผิดก็ว่าผิด
น.ส.ณัฐชยาเล่าอีกว่า สินค้าที่ตนนำมาขายเป็นสินค้าแฟชั่นที่ไปซื้อมาจากร้านค้าส่งย่านเสือป่า กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวนไม่มาก ถ้าจะจับว่าผิดกฎหมายหรือละเมิดลิขสิทธิ์ก็ควรจะไปจับที่ต้นทาง ไม่ใช่มาเอาเปรียบแม่ค้ารายเล็ก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกให้ น.ส.ณัฐชยาเข้าไปคุยเพื่อตกลงในห้อง แต่ น.ส.ณัฐชยาและกลุ่มแม่ค้าไม่ยอมทำตาม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกมาเพื่อเจรจา โดยชูแผ่นเอกสารที่อ้างว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจแต่เมื่อขอดูกลับไม่ให้ดู กลุ่มพ่อค้าก็เลยกรูเข้าไปรุม เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่าจะถูกทำร้ายจึงรีบหลบเข้าห้องพักตามเดิม
จนกระทั่งเวลา 20.30 น.คืนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่อ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ก็อาศัยช่วงชุลมุน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองเข้ามาไกล่เกลี่ย เดินหลบลงบันไดและออกไปจากตลาดอย่างรวดเร็ว แม่ค้าหลายคนวิ่งตามพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบไปขึ้นรถออกไปจากตลาดทันที ทำให้เหตุการณ์สงบลง แต่พ่อค้าแม่ค้าก็ยังจับกลุ่มคุยกันและต่างก็ลงความเห็นว่าจะช่วยกันทุกครั้งถ้าผิดสังเกตและมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจับโดยไม่แสดงหลักฐานตามกระบวนการทางกฎหมาย
คลิกเพื่อชมคลิป :