เพชรบุรี - ตำรวจเพชรบุรี รวบแก๊งวิ่งราวทรัพย์ได้ทันควัน หลังก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงเจ้าของร้านกาแฟสด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลาง เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักพบปืนปลอมอีก 1 กระบอก ตรวจสอบประวัติพบบางรายก่อคดีมาแล้วหลายคดี
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (20 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีวัยรุ่นก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำภายในร้านขายกาแฟสด ถนนโพธิ์การ้อง ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี จึงรุดสอบที่เกิดเหตุเป็นร้านขายกาแฟสดชื่อร้าน “กาแฟสดกดกริ่ง” เลขที่ 20 ถนนโพธิ์การ้อง ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยมีผู้เสียหายคือ นางรมณี จำปาถิ่น อายุ 68 ปี ที่ถูกชายวัยรุ่นกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง พร้อมพระเลี่ยมทองหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง อีก 1 องค์ไป โดยคนร้ายที่ก่อเหตุทำทีมาซื้อกาแฟสดที่ร้าน ซึ่งขณะนั้นนางรมณี ผู้เสียหายกำลังชงกาแฟอยู่แต่แล้วชายวัยรุ่นดังกล่าวได้เอื้อมมือกระชากสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองที่ห้อยอยู่ที่คอพร้อมกับรีบวิ่งหนีซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอสีชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่มีชายวัยรุ่นอีกคนสตาร์ทรถเตรียมรอไว้แล้วขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลังเกิดเหตุไม่ถึง 10 นาที หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุได้มีการกระจายกำลังตรวจสอบผู้ต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจพิเศษ สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ 1 ราย คือ นายอนุวัฒน์ มั่งมี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ซอยวัดแก่นเหล็ก 1 ถนนชีสระอินทร์ ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี และได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักในซอยวัดแก่นเหล็ก 1 ซึ่งพบของกลางเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง ซุกซ่อนไว้ในตะกร้าผ้า จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน และตรวจค้นภายในบ้านพักพบปืนปลอมอีก 1 กระบอก
นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้อีก 2 คน คือ นายอนุชา มั่งมี อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ซอยวัดแก่นเหล็ก 1 ถนนชีสระอินทร์ ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี และนายอภิชาติ ฉิมพาลี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189 ม.10 ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่แอบซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงนอนภายในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไปสอบปากคำพร้อมของกลางมายังห้องกลุ่มงานชุดสายตรวจพิเศษ พร้อมกับให้นางรมณี ผู้เสียหายมาชี้ตัวผู้ก่อเหตุในทันที
นางรมณี ผู้เสียหายเปิดเผยว่า คนร้ายทำทีมาซื้อกาแฟสดที่ร้าน ซึ่งขณะที่ตนเองกำลังชงกาแฟอยู่ก็สังเกตเห็นแล้วว่าผิดปกติ และพยายามถอยหลังหนีแต่ก็ไม่ทันจนถูกกระชากสร้อยคอทองคำไปจนได้ แต่รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้รวดเร็วเพียงโดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีหลังก่อเหตุก็สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาได้ทั้งหมด พร้อมกับของกลางสร้อยคอทองคำแต่ยังขาดพระเลี่ยมทองอีก 1 องค์ที่ยังไม่ได้คืน และขอชมเชยกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ร่วมจับกุมในครั้งนี้
ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า คนที่ลงมือกระชากสร้อยคือ นายอนุวัฒน์ มั่งมี โดยมีนายอนุชา มั่งมี น้องชาย เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ขคพ 889 เพชรบุรี พากันหลบหนีหลังเกิดเหตุ โดยมีนายอภิชาติ ฉิมพาลี เป็นคนวางแผน และชี้จุดให้ก่อเหตุ โดยขณะก่อเหตุได้มีการขี่รถวนเวียนดูลาดเลาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ก่อนที่นายอนุวัฒน์ และนายอนุชา จะขี่รถจักรยานยนต์มาเพียง 2 คน โดยนายอนุวัฒน์ได้ลงไปทำทีสั่งซื้อกาแฟ และก่อเหตุกระชากสร้อยที่คอของนางรมณีทันทีก่อนที่จะวิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีนายอนุชา ติดเครื่องรถรออยู่แล้วพากันขี่หลบหนีเข้าไปในซอยร้านผัดไทท่ายาง และไปรับนายอภิชาติ ที่ยืนรออยู่ในซอยดังกล่าว และพากันหลบหนีไปแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวเอาไว้ได้ทั้งหมดในเวลาไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายอภิชาติ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีวิ่งราวทรัพย์เมื่อ 3 เดือนก่อนในพื้นที่เขต อ.เมืองเพชรบุรี ที่อยู่ระหว่างหนีการจับกุมอีกด้วย โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด หรือนำพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป