ตำรวจตามรวบ 2 วัยรุ่นวิ่งราวมือถือนักศึกษาฯ ย่านโรงพยาบาลปทุมธานี แต่หนีไม่รอดถูกตามจับได้ด้วยโปรแกรมแอปพลิเคชันติดตามตัว พบแหล่งกบดานอยู่ละแวกวัดเสด็จ ตามตะครุบตัวในที่สุด สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง
วันนี้ (17 ธ.ค.) พ.ต.อ.ตระกูล เกลียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพล สิทธิมงคล พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ และ พ.ต.ท.พรชัย จรวงศ์ รอง ผกก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.มงคล จิตต์พรหม สว.สส.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และ พ.ต.ท.กันตภณ ธนาธิปปิ่นสกุล สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์จำนวนหนึ่งได้ควบคุมตัว นายนนทชัย ทองสุข อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9809 ม.3 ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี และนายภาณุมาศ อาจคงหาญ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ ¼ ม.3 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน อพธ 490 กทม.ที่ใช้ในการก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือของสองนักศึกษาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พ.ต.อ.ตระกูล เกลียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่สองคนร้ายวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์วิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายนั้นเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของคืนวันที่ 16 ธค.ที่ผ่านมา บริเวณริมถนนรังสิต-ปทุมธานี ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลปทุมธานี โดยผู้เสียหายคือ น.ส.จุฑารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) นักศึกษาของสถาบันแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี โดยระหว่างเกิดเหตุ น.ส.จุฑารัตน์ได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของเพื่อนชายเพื่อจะไปรับประทานอาหาร แต่เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนขับขี่จักรยานยนต์แซงขึ้นมาทางด้านซ้ายแล้วกระชากกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือรุ่นไอโฟน 5 ของ น.ส.จุฑารัตน์และเร่งเครื่องหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ นายณัฐพงษ์ ไทรงาน และ น.ส.จุฑารัตน์ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งระบุว่าโทรศัพท์ที่คนร้ายวิ่งราวไปนั้นตนเองได้ลงโปรแกรมแอปพลิเคชันในการติดตามไว้ในเครื่องของเพื่อนชายด้วย และเมื่อเปิดเครื่องมือถือของเพื่อนชายดูก็พบว่าคนร้ายได้นำโทรศัพท์ที่ชิงไปเคลื่อนไหวอยู่ในย่านวัดเสด็จในเขต ต.สวนพริกไทย อ.เมือง เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวนจึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวและสามารถจับกุมคนร้ายทั้งสองคนเอาไว้ได้พร้อมด้วยของกลางที่ชิงไป ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพและยอมรับว่าร่วมกันก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้ง โดยเมื่อชิงทรัพย์มาได้แล้วก็จะนำไปขายแล้วนำเงินมาซื้ออะไหล่เพื่อตกแต่งจักรยานยนต์ของตนเอง หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วจะได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม
ด้าน พ.ต.อ.ตระกูลกล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาเคยก่อคดีวิ่งราวทรัพย์มาแล้วกว่าหลายครั้ง และหากผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกก่อเหตุแบบเดียวกัน ขอให้มาตรวจสอบและต้องการดูของกลางได้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ในเวลาราชการ