ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วย ตร.ภูธรเมืองภูเก็ตรวบ “บอย ชิ้กเก้น” ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ประชาชน นำตัวสอบสวนดำเนินคดี
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจับกุมคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ประชาชนในพื้นที่เขต สภ.เมืองภูเก็ต ว่า จากกรณีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ น.ส.ทราย โพธิ์ถาวร ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำ จำนวน 2 เส้น น้ำหนักรวม 6 สลึง โดยเหตุเกิดที่พื้นที่ หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต คนร้ายหลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีคนร้ายที่ก่อเหตุไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากบริเวณที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียง พบว่า กล้องวงจรปิดบริเวณสามแยก ถ.ประชาอุทิศ-ถ.สงขลา สามารถบันทึกภาพคนร้ายก่อน และขณะก่อเหตุไว้ได้ นอกจากนั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดบางจุดสามารถเห็นหมายเลขทะเบียนรถที่คนร้ายใช้อย่างชัดเจนคือ หมายเลข ขนล 82 ภูเก็ต
ซึ่งหลังจากการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรมืองภูเก็ตได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพบเห็นชายคนหนึ่งนั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน ขนล 82 ภูเก็ต จึงได้เข้าไปตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าวเหมือนกับรถคันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดให้ชายคนดังกล่าวดู โดยชายคนดังกล่าวยอมรับว่าเป็นรถของตัวเองจริง แต่ให้นายณัฐวุฒิ หรือบอย ชิ้กเก้น วรรณกูล ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนยืม พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ห้องเช่าในซอยอิ่มจิต ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบนายณัฐวุฒิ อยู่ภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู โดยนายณัฐวุฒิยอมรับว่าเป็นภาพตัวเอง พร้อมนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ พร้อมตรวจยึดเสื้อ ผ้า รถจักรยานยนต์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการจับกุมคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ประชาชนในพื้นที่เขต สภ.เมืองภูเก็ต ว่า จากกรณีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ น.ส.ทราย โพธิ์ถาวร ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำ จำนวน 2 เส้น น้ำหนักรวม 6 สลึง โดยเหตุเกิดที่พื้นที่ หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต คนร้ายหลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีคนร้ายที่ก่อเหตุไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากบริเวณที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียง พบว่า กล้องวงจรปิดบริเวณสามแยก ถ.ประชาอุทิศ-ถ.สงขลา สามารถบันทึกภาพคนร้ายก่อน และขณะก่อเหตุไว้ได้ นอกจากนั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดบางจุดสามารถเห็นหมายเลขทะเบียนรถที่คนร้ายใช้อย่างชัดเจนคือ หมายเลข ขนล 82 ภูเก็ต
ซึ่งหลังจากการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรมืองภูเก็ตได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพบเห็นชายคนหนึ่งนั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน ขนล 82 ภูเก็ต จึงได้เข้าไปตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าวเหมือนกับรถคันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดให้ชายคนดังกล่าวดู โดยชายคนดังกล่าวยอมรับว่าเป็นรถของตัวเองจริง แต่ให้นายณัฐวุฒิ หรือบอย ชิ้กเก้น วรรณกูล ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนยืม พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ห้องเช่าในซอยอิ่มจิต ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบนายณัฐวุฒิ อยู่ภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู โดยนายณัฐวุฒิยอมรับว่าเป็นภาพตัวเอง พร้อมนำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ พร้อมตรวจยึดเสื้อ ผ้า รถจักรยานยนต์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีต่อไป
