เชียงราย - เจ้า “ทองกวาว” 1 ใน 2 ควายที่พระเจ้าหลานเธอฯ ทรงไถ่ชีวิตเอาไว้ และประทานให้วัดดังในอยุธยาดูแล รอดชีวิตและอยู่ในสภาพคึกคักกระปรี้กระเปร่า ไร้รอยขีดข่วน ขณะที่ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยาเตรียมรับกลับเย็นนี้
วันนี้ (17 ก.พ. 56) พ.ต.อ.คมกฤติ ออนตระไคร้ ผกก.สภ.เชียงของ จ.เชียงราย ได้สั่งการให้ ร.ต.ท.วีรศักดิ์ ชาวริม รอง สวป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าไปควบคุมดูแลโรงกักขังกระบือหรือควาย ไม่มีเลขที่บริเวณทุ่งท้ายหมู่บ้านเชียงคาน ม.14 ต.สถาน อ.เชียงของ เพราะได้รับแจ้งว่ามีการกักขังควายที่ชื่อ “ทองกวาว” อายุ 5 ปีของวัดโตนดเตี้ย หมู่ 4 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นหนึ่งในควายที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์ใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และประทานให้ทางวัดเลี้ยงดูเมื่อปี 2551 แต่ถูกโจรกรรมไปตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 56 ที่ผ่านมา เนื่องจากก่อนหน้านี้รับการประสานจากตำรวจ ภ.1 ท้องที่เกิดเหตุว่า ควายตัวดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่และได้พ่อค้าชาว อ.เชียงของ ซื้อไปและนำไปขังเอาไว้ที่บริเวณดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานที่ที่มีการนำควายทองกวาวไปขังเอาไว้เป็นโรงควายของนายฮ่อน ไชยสี อายุ 61 ปี เลขที่ 41/1 ม.14 มีลักษณะเป็นโรงไม้หลังคาสูงไม่มีฝากั้น และมีกองฟางขนาดใหญ่ให้เป็นอาหารโดยไม่มีรั้ว แต่มีการมัดควายเอาไว้ภายใน จำนวน 2 ตัว โดยหนึ่งในนั้นคือ เจ้าทองกวาว และอีกตัวถูกซื้อมาพร้อมกัน
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมพื้นที่ไว้ นายฮ่อนอยู่ในอาการตื่นตกใจ แต่ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี โดยแจ้งให้ทราบว่าไม่เคยทราบมาก่อนว่าควายตัวดังกล่าวเป็นเจ้าทองกวาว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปควบคุมสถานที่จึงแจ้งว่าเมื่อ 14 ก.พ. 56 เจ้าทองกวาวและควายอีกหลายตัวที่ทรงไถ่ชีวิตเอาไว้ได้ถูกขโมย และเมื่อสืบสวนสอบสวนจากท้องที่เกิดเหตุ ก็ทราบว่า หนึ่งในนั้นคือ เจ้าทองกวาวถูกพ่อค้าชาว อ.เชียงของซื้อไปโดยตรวจสอบจากการให้ปากคำ บัญชีหรือบิลเงินสดในการซื้อขายระหว่างตลาดนัดโค-กระบือ แห่งหนึ่งที่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.1 จึงแกะรอยเรื่อยมา ขณะเดียวกัน ทางพระครูเกษม พัฒนากร เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ย ซึ่งเคยดูแลควายดังกล่าวก็ได้เดินทางไปดูตัวเจ้าทองกวาว พร้อมระบุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นตัวจริงแน่นอน
นายฮ่อนกล่าวว่า ไปซื้อควายที่ตลาดนัด อ.ทัพทัน พร้อมกับนายจำรัส แก่นดี ชาวบ้านดอนศิลา อ.เวียงชัย โดยใช้รถบรรทุกหกล้อไป สามารถหาซื้อได้จำนวน 4 ตัว เฉลี่ยตัวละ 30,000 บาท สำหรับจ้าทองกวาวซื้อมาในราคา 28,000 บาท เมื่อได้แล้วก็ได้เดินทางกลับ อ.เชียงของ ถึงเช้ามืดวันที่ 16 ก.พ. 56 เพื่อเตรียมจะนำมาเลี้ยงต่อเป็นแม่พันธุ์ให้ลูกหลาน แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการใดๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าไปมาตรวจสอบ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าควายดังกล่าวคือเจ้าทองกวาว ถ้ารู้ก็คงจะไม่ซื้อมาแน่นอน และเมื่อทราบว่าเป็นเช่นนี้ก็พร้อมที่คืนควายให้แก่ทางวัดและตกลงคืนเงินซื้อขายกับคนขายต่อไป
สำหรับเจ้าทองกวาวเป็นควายตัวเมียคู่ กับเจ้าคล้าวที่ถูกขโมยไป แต่เจ้าคล้าวถูกคนรับซื้อนำไปขายเชือดไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าทองกวาวนอกจากจะรอดชีวิตแล้วการที่ถูกขนส่งมาไกลและมัดเอาไว้ไม่ได้ทำให้มีท่าทีอิดโรยแต่อย่างใด กลับมีท่าทีที่กระปรี้กระเปร่า รวมทั้งตามลำตัวและอวัยวะต่างๆ ก็ไม่ได้มีร่องรอยบาดแผลใดๆ
ทั้งนี้ หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและพระครูเกษมตรวจสอบเรื่องราวแล้วได้นำเจ้าทองกวาวไปยัง สภ.เชียงของ เพื่อจะได้ส่งมอบให้กับคณะของนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้เดินทางไปรับเจ้าทองกวาวที่ อ.เชียงของ ในเย็นวันนี้ด้วย