ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - คณะกรรมการคัดค้านเขื่อนจาก “สะเอียบ” บุกยื่นหนังสือต่อกรรมการสิทธิฯ ถึงเชียงใหม่ ร้องให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิ ละเมิดรัฐธรรมนูญ กรณีเขื่อนแก่งเสือเต้น ยมบน-ยมล่าง จวกซ้ำเงินกู้ 3.5 แสนล้านหนุนทำลายป่า ระบบการจัดการน้ำพังหมด
วันนี้ (14 ก.พ.) ตัวแทนชาวบ้าน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ที่คัดค้านการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่ปัจจุบันอยู่ในส่วนหนึ่งของแผนจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล เข้ายื่นหนังสือต่อ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่มาเปิดการสัมมนาโครงการเครือข่ายในการเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของเครือข่าย เรื่อง “นโยบายการจัดการน้ำที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน” ที่โรงแรมฮอลิเดย์ การ์เดน จ.เชียงใหม่ โดยเรียกร้องให้ กสม.ตรวจสอบการละเมิดสิทธิกรณีโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่
นายสมมิ่ง เหมืองร้อง ประธานคณะกรรมการคัดค้านเขื่อน 4 หมู่บ้าน ต.สะเอียบ กล่าวว่า ต้องการให้ กสม.ตรวจสอบการละเมิดสิทธิ เพราะรัฐบาลไม่เคยชี้แจงข้อเท็จจริง แต่กลับนำโครงการเหล่านี้ไปบรรจุในแผนการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งข้ามขั้นตอนมากมาย ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้าน
ขณะที่ นพ.นิรันดร์กล่าวว่า กสม.รับจะตรวจสอบตามที่ชาวบ้านร้องเรียน เพราะรับเงินเดือนซึ่งเป็นภาษีของพี่น้องประชาชน ต้องทำงานแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน
ด้าน ดร.วสันต์ จอมภักดี วิทยากรหลักในการสัมมนา กล่าวถึงการจัดการแม่น้ำ คูคลอง องภาคเหนือที่ผ่านมาว่ามีความผิดพลาด การถมริมฝั่งน้ำปิงในเมืองเชียงใหม่ทำให้แม่น้ำแคบ ระบบนิเวศเปลี่ยนไป เป็นความไม่เข้าใจของหน่วยงานราชการของเราเองที่มุ่งเน้นการพัฒนาเน้นความเจริญ ทำให้ระบบนิเวศเสียหาย
“เราไม่ควรเร่งพัฒนาจนลืมภูมิปัญญาชาวบ้าน บรรพบุรุษของเราอยู่กันมาได้โดยมีระบบจัดการน้ำบันทึกใว้ในตำรามังรายศาสตร์ แต่ระยะหลังเราให้พวกดอกเตอร์มาจัดการน้ำ ระบบพังหมด แล้วลูกหลานเราจะอยู่กันได้อย่างไร เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทจะทำให้ระบบนิเวศแม่น้ำพังหมด แถมยังเป็นภาระให้ลูกหลานเป็นหนี้ไปอีกนานแสนนาน”
นายประสิทธิพร กาฬอ่อนศรี กล่าวถึงภาพรวมลุ่มน้ำยมที่มีกรณีปัญหาโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น เขื่อนยมบน เขื่อนยมล่าง ว่าเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท หมกเม็ดแผนการทำลายป่าไว้อย่างมหาศาล เช่น เขื่อนแก่งเสือเต้น จะทำลายป่า 41,7501 ไร่ เขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ จะทำลายป่า 13,000 ไร่ นอกจากนี้ในแผนต้องสร้าง 22 เขื่อน ป่าไม้และชุมชนต้องได้รับผลกระทบอย่างมาก อีกทั้งยังให้ต่างชาติมาประมูลงานอีก ชาวบ้านและชุมชนจึงไม่มีส่วนร่วมเลย
“รัฐบาล และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและะอุทกภัย หรือ กบอ. เดินหน้ากู้เงินมาทำลายป่าอย่างนี้ ละเมิดสิทธิหรือไม่”