xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่เปิดศูนย์เฉพาะกิจฯ รับมือหมอกควัน-ไฟป่า ขู่พื้นที่ไหนมีปัญหา นอภ.อดขึ้นเงินเดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่เปิดศูนย์เฉพาะกิจป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์-รวบรวมข้อมูลส่งต่อหน่วยงานปฏิบัติ ด้านรองผู้ว่าฯ กำชับทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ให้เห็นผลชัดเจนโดยเฉพาะช่วงวิกฤตเดือน มี.ค. ย้ำเชียงใหม่เป็นพื้นที่สำคัญรัฐบาลติดตามผลเป็นพิเศษ เผยจังหวัดสั่งการทุกฝ่ายดูแลพื้นที่รับผิดชอบหากเกิดปัญหาต้องรับเรื่องไป ส่วน นอภ.หากพื้นที่มีปัญหามีสิทธิ์อดขึ้นเงินเดือน

วันนี้ (6 ก.พ.) ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการเปิดศูนย์เฉพาะกิจป้องกันไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ ณ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ อาคารอำนวยการชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดย ดร.กมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจฯ และตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี

การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการรับมือกับสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงฤดูแล้งของทุกปีตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันภาคเหนือ 9 จังหวัด ตามหลักการ 2P2R รวม 8 มาตรการ ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่การจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันขึ้น

ทั้งนี้ ศูนย์เฉพาะกิจป้องกันไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่จะทำหน้าที่เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปได้ทราบอย่างรวดเร็ว โดยจะติดตามตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก จำนวนจุดความร้อนซึ่งแปลผลจากภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา เป็นต้น เพื่อประมวลผลและรายงานเตือนสถานการณ์หมอกควันไฟป่าไปยังกลุ่มเป้าหมาย

นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ โดยศูนย์เฉพาะกิจจะทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ พร้อมทั้งรายงานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทั้งคณะกรรมการและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานอย่างจริงจังตลอดช่วง 100 วันอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือน มี.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์มีความรุนแรงมากที่สุดในแต่ละปี ดังนั้น นับจากนี้ไปทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการทำงานเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

นายอดิศรกล่าวต่อว่า ทางจังหวัดคาดหวังว่าการทำงานของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะก่อให้เกิดผลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่ชัดเจน โดยจังหวัดได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆ ดูแลพื้นที่ในความรับผิดชอบของตนเองอย่างเคร่งครัด หากพบว่าเกิดการเผาขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบหน่วยงานนั้นๆ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และหากพบว่าเมื่อมีการสั่งการจากทางจังหวัดแล้วไม่ได้รับการตอบสนองก็จำเป็นจะต้องรายงานไปยังต้นสังกัดของหน่วยงานนั้นๆ ให้ได้รับทราบต่อไป ส่วนในระดับพื้นที่ซึ่งจังหวัดได้มอบหมายให้นายอำเภอเป็นดูแลรับผิดชอบนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้แจ้งไปยังนายอำเภอทุกอำเภอแล้วว่า หากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลยหรือไม่สามารถดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพได้แล้วจะมีผลต่อการพิจารณาเพิ่มขั้นเงินเดือนของนายอำเภอด้วย

ด้านการทำงานของศูนย์เฉพาะกิจฯ นั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ศูนย์เฉพาะกิจฯ จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อป้อนให้ผู้ปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่ได้ใช้ในการดำเนินการ รวมทั้งรวบรวมข้อมูลให้หน่วยงานต่างๆ และจังหวัดในการพิจารณาภาพรวมของสถานการณ์ รวมไปถึงการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อนำเสนอไปยังผู้บังคับบัญชาในส่วนกลางด้วย เพราะจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลให้ความสำคัญและให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ จากการที่เป็นจังหวัดใหญ่และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาค ดังนั้นจึงจะมีการติดตามข้อมูลและสอบถามมายังจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งศูนย์เฉพาะกิจฯ จะมีส่วนช่วยในการรวบรวมข้อมูลในส่วนนี้ได้อีกทางหนึ่ง

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากการก่อตั้งศูนย์เฉพาะกิจฯ แล้ว จังหวัดเชียงใหม่ยังได้จัดตั้ง “กองทุนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่” ขึ้น พร้อมกับแต่งตั้งคณะทำงานของกองทุนดังกล่าวตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยกองทุนดังกล่าวจะเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน องค์กรเอกชน และประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับปัญหาหมอกควันและไฟป่า เช่นผู้ประกอบการโรงแรม ผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้ประกอบการการท่องเที่ยวธรรมชาติในพื้นที่ เป็นต้น ได้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

กำลังโหลดความคิดเห็น