เครือข่ายคนรักษ์เจียงใหม่บุกศาลากลาง จี้ผู้ว่าฯ เปิดเวทีฟังคนเมืองก่อนรื้อคุกหญิง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายผู้หญิง และชุมชนเมืองรักษ์เจียงใหม่ บุกร้องผู้ว่าฯ ขอเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นก่อนตัดสินใจรื้อคุกหญิงกลางเมือง พร้อมจี้จังหวัดจัดระเบียบสังคมอย่างจริงจัง เหตุชาวบ้านเดือดร้อนทั้งเมือง หลายคนถูกขู่จนต้องย้ายบ้านหนี

วันนี้ (5 ก.พ.) กลุ่มเครือข่ายผู้หญิงเชียงใหม่ และเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เจียงใหม่ ประมาณ 20 คน นำโดยนางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง รวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือเปิดผนึก พร้อมรายชื่อชาวบ้านต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร้องขอให้มีการเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน กรณีที่จะดำเนินโครงการ “ข่วงหลวงเวียงแก้ว” วงเงินกว่า 1,200 ล้านบาท บริเวณทัณฑสถานหญิงเก่ากลางเมืองเชียงใหม่

โดยระบุว่า ที่ผ่านมามีความพยายามประชาสัมพันธ์ว่าหลังจากย้ายผู้ต้องขังหญิงออกจากทัณฑสถานแล้วจะทุบอาคารต่างๆ เพื่อพัฒนาพื้นที่ข่วงหลวงเวียงแก้วขึ้น แต่รายละเอียดไม่ชัดเจนว่าจะออกมาในรูปแบบใด ทางเครือข่ายเห็นว่าเชียงใหม่เป็นเมืองประวัติศาสตร์มากว่า 700 ปี พื้นที่แห่งนี้ควรจะมีการขุดค้นเชิงประวัติศาสตร์ และให้พัฒนาเป็นสถานที่ใช้ประโยชน์ของเมืองอย่างเหมาะสม

ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกันคิดหรือสร้าง อยากให้เปิดเวทีรับฟังความเห็นเพื่อให้เกิดแนวทางที่เหมาะสม โปร่งใส และรอบคอบ เพราะทุกคนมีความรู้สึกรักในแผ่นดินเกิด และเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งจะได้รู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งเป็นเป็นผลดีต่อเมืองต่อไป

เครือข่ายผู้หญิงเชียงใหม่ และเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เจียงใหม่ระบุด้วยว่า ล่าสุดทราบว่ามีการใช้งบประมาณก้อนแรกแล้ว 150 ล้านบาทเพื่อนำมาปรับพื้นที่ จึงอยากให้มีความเห็นร่วมกันก่อนดำเนินการต่อไปเพื่อไม่ให้มีผลกระทบเกิดขึ้น โดยหลังจากนี้อีก 1 สัปดาห์จะมาติดตามความก้าวหน้าในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ ทางเครือข่ายฯ ยังได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดควบคุมเรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคม เพราะร้านต่างๆ ที่อยู่ในเมืองฝ่าฝืนกฎหมาย คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีการร้องเรียนมาแล้วแต่ก็ยังไม่มีการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ขณะที่ชาวบ้านก็ถูกข่มขู่ บางคนต้องหนีออกไปอยู่ที่อื่น

เช่น ย่านถนนลอยเคราะห์ ถนนนิมมานเหมินท์ ที่เกิดความเสื่อมทางวัฒนธรรม ขัดต่อความเป็นเมืองเชียงใหม่ที่มีความสง่างามทางวัฒนธรรมตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติไว้ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะเหตุรำคาญเสียงดัง ยังรวมไปถึงสุขภาพจิต ความเป็นอยู่ ปัญหาการจราจร และอื่นๆ ด้วย จึงอยากเอาจริงเอาจัง หรือรื้อฟื้นโซนนิ่งให้ชัดเจน หรือแนวทางใดก็ได้ที่ทำให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข หากไม่มีอะไรคืบหน้าจะไปร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนเชียงใหม่

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ติดราชการต่างประเทศ ป้องกันจังหวัดจึงรับเรื่องแทน และยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญ และจังหวัดก็เฝ้าติดตามอยู่ โดยจะนำข้อมูลเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งแก้ไขต่อไป