บุรีรัมย์ - บุรีรัมย์ – “น้ำมูล”บุรีรัมย์วิกฤตแห้งสุดในรอบหลาย 10 ปี กระทบผู้เลี้ยงปลากระชังอาชีพหลักชาวบ้านท่าเรือต้องหยุดเลี้ยงทั้งหมู่บ้านสูญรายได้หลายล้านและพากันอพยพไปขายแรงงานต่างถิ่น หาเงินเลี้ยงครอบครัวและใช้หนี้สินที่กู้ยืมมาลงทุนเลี้ยงปลารายละหลายแสน วอนภาครัฐช่วย
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บุรีรัมย์ ว่าขณะนี้ภัยแล้งกำลังคุกคามอย่างหนักหนัก ล่าสุดน้ำในลำน้ำมูล ที่ไหลผ่าน อ.สตึก ลดต่ำสุดในรอบหลายสิบปี ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก กว่า 30 ราย ซึ่งถือเป็นอาชีพและรายได้หลักของชาวบ้าน จนต้องหยุดเลี้ยงทั้งหมู่บ้าน เนื่องจากระดับน้ำแห้งขอดจนมองเห็นสันดอนทราย สามารถเดินข้ามฝั่งไปมาหาสู่กันได้ ประกอบน้ำที่เหลืออยู่มีสภาพเน่าเสียไม่สามารถเลี้ยงปลาได้ ทำให้ต้องปล่อยกระชังทิ้งร้าง สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะเดิมเคยเลี้ยงปลาได้ปีละ 3 ครั้ง แต่ปีนี้เลี้ยงได้เพียงครั้งเดียวในช่วงหน้าฝนที่มีน้ำหลากเท่านั้น
ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวทำให้ชาวบ้านหลายครอบครัวต้องอพยพไปขายแรงงานยังทั้งในและต่างจังหวัดเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และชำระหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาลงทุนเลี้ยงปลารายละหลายแสนบาท จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจปัฐหาและช่วยเหลือ โดยการขุดลอกและสร้างฝาย หรือเขื่อนยาง เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งให้ชาวบ้านสามารถเลี้ยงปลาได้ตลอดทั้งปี
นายสมพงษ์ หมื่นหน้า วัย 60 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้านท่าเรือ กล่าวว่า เกษตรกรในหมู่บ้านกว่า 30 รายต้องเลิกเลี้ยงปลาชั่วคราว จนกว่าจะมีฝนตกและระดับน้ำมากพอที่จะเลี้ยงได้ ทำให้ขาดรายได้ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ เชื่อว่าอนาคตอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังที่บ้านท่าเรือจะสูญหายไปในที่สุด