ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.ภาค 3 รวบเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำได้ผู้ต้องหา 2 ราย เป็นแม่ผัวกับลูกสะใภ้ พร้อมของกลางยาไอซ์ 2 กก. มูลค่า 5 ล้านบาท และยึดเงินในบัญชีอีก 4.5 แสน รับสารภาพได้ค่าจ้างขนเที่ยวละ 2 แสน เผยสามี-ลูกชายถูกจับคดียาบ้าจำคุกที่อุบลฯ ก่อนตัวเองกับลูกสะใภ้มาถูกจับ ทำให้ทั้งครอบครัวเหลือเพียงเด็ก 3 คนต้องอยู่ลำพัง
วันนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธกฤต สิทธิประเสริฐ รอง ผบช.ภ.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำ ได้ผู้ต้องหารวม 2 ราย คือ นางอัมพร โจระสา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 ม.3 ต.โนนสว่าง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี และ น.ส.ทิพย์เกสร สุขเทียม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ซึ่งเป็นลูกสะใภ้นางอัมพร พร้อมของกลาง สารไอซ์ บรรจุกระดาษห่อชาสีเขียว ยี่ห้อ GUANYINWANG จำนวน 2 ถุง รวมน้ำหนัก 2 กิโลกรัม (กก.) มูลค่าราคาขายในตลาดกว่า 5 ล้านบาท และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่านางอัมพร พร้อมพวกมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ (สารไอซ์) รายสำคัญ โดยมีเครือข่ายผู้ค้าเกี่ยวข้องอยู่ในเรือนจำจังหวัดอุบลราชธานี จึงวางแผนสืบสวนจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับสายลับทำการล่อซื้อสารไอซ์ จากกลุ่มของนางอัมพรเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท โดยนัดหมายให้นำยาเสพติดมาส่งมอบให้ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมันคอสโม ระหว่าง กม. 48-49 ถ.มิตรภาพ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อถึงเวลานัดหมายกลุ่มนางอัมพร พร้อม น.ส.ทิพย์เกสร ลูกสะใภ้ ได้นำสารไอซ์มาส่งให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าว แต่คนขับรถไหวตัวทันหลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (สารไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และทำการตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดและอายัดเงินในบัญชีอีกจำนวน 4.5 แสนบาท
นางอัมพร ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดอุบลราชธานีให้นำสารไอซ์ดังกล่าวไปส่งลูกค้าโดยให้ขนเข้าไปยังกรุงเทพฯ ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 200,000 บาท โดยตนและลูกสะใภ้ได้นำยาไอซ์จาก จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีคนนำมาส่งให้ที่บ้าน ก่อนขึ้นรถโดยสารประจำทางเดินทางเข้าไปที่กรุงเทพฯ จากนั้นมีคนขับรถยนต์เก๋งพาย้อนกลับมาส่งให้ลูกค้าที่ จ.นครราชสีมา และถูกจับกุมได้ดังกล่าว ซึ่งทำเป็นครั้งแรกเนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้สินที่มีอยู่
นางอัมพรเปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้สามีและลูกชายถูกจับกุมคดีเสพและค้ายาเสพติด (ยาบ้า) ศาลตัดสินจำคุก 4 ปี และ 10 ปีตามลำดับ ขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี และวันนี้ตนพร้อมลูกสะใภ้มาถูกจับกุมอีก ทำให้ทั้งครอบครัวเหลือเพียงหลาน 3 คน อายุ 10 ขวบ 8 ขวบ และ 2 ขวบ ที่ต้องอยู่กันตามลำพังที่บ้านใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งคงต้องปล่อยไปตามชะตากรรมเพราะตัวเองมีความจำเป็นที่ต้องทำเช่นนี้และยอมรับความผิดที่ทำลงไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อทำการสืบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คลิกเพื่อรับชม :
