ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 รวบเครือข่ายยาบ้าเชื่อมโยงแก๊งโจรกรรม จยย.รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 4 ราย บุกยึดของกลาง จยย. 81 คัน พร้อมรถยนต์ ยาบ้า อาวุธปืนเพียบ เผยเปิดร้านรับจำนำรถกลางเมืองโคราช โดยมีเครือข่ายตระเวนดาวน์รถราคาต่ำมาจำนำ ก่อนส่งไปขายให้เครือข่ายในประเทศเพื่อนบ้าน และจังหวัดต่างๆ สารภาพส่งรถไปขายแล้วไม่น้อยกว่า 100 คัน
วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่หน้าศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค (รอง ผบช.ภ.3 ) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาบ้า และแก๊งโจรกรรมจักรยานยนต์รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหารวม 4 คน ประกอบด้วย นายทรงพล สิทธิสงคราม หรือเต้ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 530 ถ.สืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชะลอ เนติกุล อายุ 57 ปี นางนวนลออ เนติกุล หรือเหมียว อายุ 55 ปี ภรรยา นายชะลอ อยู่บ้านเลขที่ 2564 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และนายเสกสรร เจิมขุนทด อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 8 ต.สีมุม อ.เมือง จ.นครราชสีมา
พร้อมของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .32 มม. ไม่มีเลขทะเบียน จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .32 มม. .380 มม. และ 9 มม. รวมจำนวน 31 นัด สารไอซ์ จำนวน 1 ถุง ยาบ้า จำนวน 115 เม็ด รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 81 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงินสดที่ล่อซื้อจำนวน 26,000 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในเขต อ.เมือง จ.นครราชสีมา จนทราบว่า เชื่อมโยงกับเครือข่ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยเครือข่ายนี้จะทำการโจรกรรมด้วยการลัก หรือดาวน์รถจักรยานยนต์จากร้านจำหน่ายมาในราคาถูก ก่อนนำมาขายต่อ หรือจำนำที่ร้าน “ที.พี.เค.ชาร์ตเตอร์” ของ นายทรงพล หรือเต้ ตั้งอยู่บริเวณ 4 แยกชลประทาน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา คันละประมาณ 8,000-9,000 บาท แล้วไม่ผ่อนชำระค่างวดทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยปล่อยให้หลุดจำนำกับไฟแนนซ์ จากนั้น กลุ่มของนายทรงพล จะนำรถส่งไปขายต่อให้ลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ จ.สุพรรณบุรี และประเทศเพื่อนบ้าน ในราคาคันละประมาณ 20,000-25,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบร้านดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นร้านจำนำสิ่งของต่างๆ และประกอบกิจการซื้อขาย จำนำรถจักรยานยนต์เป็นหลัก แล้วส่งขายต่อโดยทุจริต พบรถจักรยานยนต์ซุกซ่อนอยู่ในโกดังปิดล็อกกุญแจไว้ จำนวน 2 ห้อง รวม 81 คัน
ส่วน นายทรงพล เจ้าของร้านได้วิ่งหลบหนีขึ้นไปบนหลังคาอาคารใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงตามขึ้นไปจับกุมได้บนหลังคา ก่อนนำตัวมาตรวจค้นห้องพักพบยาเสพติด อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากดังกล่าวซุกซ่อนในตู้นิรภัยในห้องพัก พร้อมแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (สารไอซ์) ในครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและเสพ” ซึ่ง นายทรงพล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยทำมานานหลายปีแล้ว และนำรถส่งไปขายให้เครือข่ายแล้วไม่น้อยกว่า 100 คัน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของนายทรงพล ทราบว่า รับยาบ้ามาจากนางนวนลออ หรือเหมียว และนายชะลอ เจ้าของรถโดยสารปรับอากาชั้น 2 (ป. 2) สายระยอง-นครราชสีมา จึงวางแผนล่อซื้อยาบ้า จำนวน 80 เม็ด ในราคา 20,000 บาท พร้อม และจับกุมพร้อมตั้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุม นายเสกสรร พร้อมยาบ้า 30 เม็ด จากการล่อซื้อ 6,000 บาท ซึ่งเป็นเครือข่ายยาบ้าที่ส่งขายให้นายทรงพล
