xs
xsm
sm
md
lg

“ปลอด” ติดตามงานป้องกันไฟป่าหมอกควัน 3 จว. ย้ำระวังช่วงวิกฤต “กลาง ก.พ.-มี.ค.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ปลอดประสพ” ประชุมติดตามงานป้องกันหมอกควันไฟป่า 3 จังหวัดที่เชียงใหม่ กำชับทุกฝ่ายหยุดการเผาตามนโยบายรัฐบาล ชี้ช่วงกลางเดือน ก.พ. ถึงกลาง มี.ค.เป็นช่วงวิกฤตต้องทำงาน 24 ชั่วโมง ย้ำต้องรายงานผลผ่าน www.thaiforestfire.com ทั้งรายวัน-รายสัปดาห์ แนะจังหวัดใช้ ปชส.จังหวัดเป็นหัวหอกรณรงค์ประชาชนหยุดพติกรรมการเผา

วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการป้องกันปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จ.เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน มีนางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายพินิจ หาญพาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม

ทั้งนี้ การประชุมมีขึ้นเพื่อรับทราบสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควันแต่ละพื้นที่ รวมถึงแนวทางที่แต่ละจังหวัดปฏิบัติและเตรียมที่จะปฏิบัติตลอดช่วง 100 วันอันตราย (21 ม.ค.-30 เม.ย.) ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศไม่ให้มีการเผาเพื่อลดการเกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยทั้ง 3 จังหวัดได้นำเสนอข้อมูลไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ รวมทั้งแผนการทำงานของแต่ละจังหวัด

ขณะที่นายปลอดประสพได้ย้ำถึงนโยบายที่เน้นไม่ให้เกิดการเผา ประกอบด้วย 1. การป้องปราม ที่จะมีการสั่งการจากรัฐบาลลงมายังหน่วยงานระดับปฏิบัติในรูปแบบซิงเกิลคอมมานด์ 2. การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะใช้ทั้งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พระราชบัญญัติป่าไม้ และกฎหมายอาญาควบคู่กัน 3. การบริหารจัดการพื้นที่ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะถือเป็นผู้สั่งการสูงสุด สามารถสั่งการหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดให้ดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องร้องขอไปยังต้นสังกัดก่อน เนื่องจากถือเป็นภาวะเร่งด่วน และ 4. การเฝ้าระวัง และควบคุมดูแลพื้นที่เสี่ยงหรือคาดว่าจะมีความเสี่ยงสูง

นายปลอดประสพยังได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงมาตรการ 11 ข้อ ประกอบด้วย 1. การหาวิธีป้องกันการเผา 2. การลดหมอกควัน ทั้งในส่วนของปริมาณ และระยะเวลาการเกิด 3. การควบคุม 3 พื้นที่ปัญหา ได้แก่ พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ตัวเมือง โดยแบ่งความรับผิดชอบให้แก่หน่วยงานต่างๆ ดูแลในแต่ละส่วน 4. การประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้ช่วยตรวจสอบ และควบคุมดูแลการเผาในพื้นที่ 5. การบังคับใช้กฎหมายตามความเหมาะสม

6. การมุ่งเน้นการปฏิบัติการในช่วง 100 วันอันตรายเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวิกฤตที่คาดว่าไฟป่าหมอกควันจะมีความรุนแรงมากที่สุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องติดตามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง 7. ผสานกำลังกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอเป็นเจ้าภาพหลักดูแล 8. การขอรับการสนับสนุนด้านกำลังพล และอุปกรณ์จากกองทัพ

9. การเพิ่มความถี่ในการออกสอดส่องดูแล และลาดตระเวนในพื้นที่เพื่อป้องกันการเผา โดยจะมีการจัดทำหมวกแจกจ่ายแก่เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการออกตรวจตราของเจ้าหน้าที่ 10. การตรวจสอบด้วยตัวชี้วัดต่างๆ ของรัฐบาล เช่น จำนวนจุด Hotspot หรือค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพื่อประเมินผลการทำงานของแต่ละจังหวัด และ 11. ระบบการรายงานผลการปฏิบัติงาน ที่จะมีการรายงานแบบเรียลไทม์ผ่านทางเว็บไซต์ โดยจะต้องส่งรายงานเข้ามายังส่วนกลาง และที่ตนทุกสัปดาห์ เพื่อที่จะนำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีในแต่ละสัปดาห์ต่อไป

นายปลอดประสพยังได้ย้ำให้หน่วยงานต่างๆ ให้ความสำคัญใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1. ช่วงวิกฤตตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคมที่ทุกฝ่ายจะต้องทำงานอย่างเข้มข้น 2. การประสานงานไปยังบุคลากรในระดับต่างๆ ที่เข้ามาร่วมปฏิบัติการ โดยเฉพาะระดับท้องถิ่นอย่างนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลในพื้นที่เป็นอย่างดี จึงควรจะมีการหารือ และติดตามสั่งการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ 3. การพยาบยามทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวไทยภูเขาในพื้นที่ว่า แนวทางการการเผาเพื่อทำการเกษตร หรือหาของป่า ซึ่งเป็นรูปแบบวิถีชีวิตนั้น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้อื่น และ 4. แนะนำให้จังหวัดใช้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด หรือหน่วยงานในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ เป็นหัวหอกในการดำเนินการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนละเว้น หรือหยุดพฤติกรรมการเผา

ทั้งนี้ ในการประชุมยังมีการนำเสนอการใช้งานเว็บไซต์ www.thaiforestfire.com ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์กลางการแจ้งเหตุไฟป่าแบบเรียลไทม์ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางนำเสนอข้อมูลผลการปฏิบัติงานแก้ไขหมอกควันไฟป่า ทั้งในแบบประจำวัน ที่จะรายงานผลวันละ 4 ครั้ง และการสรุปผลประจำสัปดาห์ ที่จังหวัด และหน่วยงานต่างๆ จะรายงานเข้าสู่ส่วนกลางภายในวันจันทร์ เพื่อนำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายปลอดประสพได้กำชับให้ทุกฝ่ายเตรียมข้อมูล และบุคลากรที่จะทำหน้าที่ให้พร้อม รวมทั้งเตรียมที่จะจัดส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการฝึกอบรมให้แก่ผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่เชียงใหม่ต่อไปด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น